เมื่อวันที่ 20 พ.ย. พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.กฤษดา พันธ์เกษม รอง ผบก.ภ.จว.พะเยา ปฏิบัติราชการ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมตำรวจชุดปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ (ศปอส.ภ.จว.เชียงใหม่) ได้ทำการตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 7 ต.หนองเต่า อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี พร้อมยึดอุปกรณ์ให้สัญญาณทางอินเทอร์เน็ต (เราท์เตอร์) ยี่ห้อ 3BB จำนวน 1 ชุด และ ซิมการ์ดโทรศัพท์เครือข่าย ais จำนวน 1 ซิมการ์ด และตรวจค้นบ้านเลขที่ 188/142 หมู่ 9 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งผลการตรวจค้น ได้ทำการตรวจยึด คอมพิวเตอร์พกพา ยี่ห้อ acer จำนวน 1 เครื่อง ไอแพด ยี่ห้อ แอปเปิล สีบลู จำนวน 1 เครื่อง และบัตรกดเงินสด ของธนาคารไทยพาณิชย์ 1 ใบ พร้อมกับทำการจับกุมตัว นายฉัตรธวัช ศรีทรงเมือง อายุ 24 ปี ที่อยู่ 32 หมู่ 7 ต.หนองเต่า อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 750/2564 ลงวันที่ 18 พ.ย. 64 ในความผิดฐาน “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนและฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นคนอื่น”

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า การตรวจค้นและการจับกุมในคดีนี้สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาคือ นายฉัตรธวัช ได้ทำการอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัท บิทคัพ ออนไลน์ และโทรฯ ไปหลอกลวงผู้เสียหายเป็นผู้หญิงว่า บัญชีของผู้หญิงดังกล่าวมีปัญหาในการเข้าสู่ระบบ จนกระทั่งหลงเชื่อแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงรหัสโอทีพีของบัญชีธนาคารตัวเอง ให้กับนายฉัตรธวัช จากนั้นนายฉัตรธวัช ได้เข้าสู่ระบบกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของผู้เสียหาย และดูดเงินในบัญชีของผู้เสียหายไปสู่บัญชีของตัวเองแทน มูลค่าความเสียหาย 97,000 บาท หลังจากนั้นผู้เสียหายได้แจ้งความดำเนินคดี และทางเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนสอบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาเป็นใครและติดตามจับกุมไว้ได้ในที่สุด นอกจากนี้จากข้อมูลของ สน.พญาไท ก็มีคนมาแจ้งความลักษณะนี้ โดยมีผู้ต้องหาคือ นายฉัตรธวัช มีมูลค่าความเสียหายจำนวน 1.5 ล้านบาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้นำตัวขยายผลว่ามีผู้เสียหายอื่นใดอีกหรือไม่และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.