จากกรณีพบศพของ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี แม่ม่ายสาวอดีตภรรยาชาวฝรั่ง เสียชีวิตในสภาพเปลือยท่อนล่างอยู่ภายในบ้านนาน 4 วัน โดยมีเพียง ด.ญ.บี (นามสมมุติ) ลูกสาววัย 12 ขวบ กินนอนอยู่กับศพเพียงลำพังโดยไม่รู้ว่าแม่เสียชีวิตแล้ว

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 25 พ.ย. พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เขาคิชฌกูฏ พร้อมด้วย พ.ต.ท.พินิจ แก้วศรีทอง สว.(สอบสวน) นำกำลังตำรวจสืบสวนและตำรวจวิทยาการกองพิสูจน์หลักฐาน เดินทางไปยังบ้านพักในพื้นที่ ต.จันทเขลม อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เพื่อตรวจสอบและเก็บวัตถุยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดี ก่อนจะให้นิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้ง นอกจากนี้ยังได้เชิญคนในครอบครัวตลอดจนญาติและบุคคลที่ใกล้ชิด มาให้ปากคำเพิ่มเติมรวมถึง ด.ญ.บี ที่ให้การยืนยันว่าช่วง 4 วันก่อนหน้านี้แม่ยังมีชีวิตอยู่ ใช้ชีวิตกินนอน พูดคุยกับแม่ปกติ จนเมื่อวันสุดท้าย ที่แม่ไม่ตื่นมาคุยด้วยจึงได้โทรฯ หาน้าให้มาช่วยดู ขณะนั้นยังไม่รู้ว่าแม่ได้เสียชีวิตไปหลายวันแล้ว เพื่อนำมาประมวลกับพยานหลักฐาน ในการคลี่คลายคดี

ภายหลัง น้องสาวผู้ตาย ให้การว่า หลังจากพี่สาวหย่าร้างกับสามีหลายปีแล้ว พักอาศัยในบ้านอยู่กับลูกสาวเพียง 2 คนเท่านั้น และเมื่อได้คุยกับหลานสาว ก็ยังยืนยันว่าก่อนหน้านี้แม่ยังใช้ชีวิตกินนอน พูดคุยกับแม่ปกติจริง โดยคืนก่อนที่แม่จะเสียชีวิต ยังนั่งกินข้าวและอยู่กับแม่ตลอด ช่วงเช้าก็ยังลุกขึ้นมากินน้ำ และเดินเข้าห้องน้ำ ส่วนตัวมองว่าหลานอาจจะเห็นภาพ หรือสื่อสารกับแม่ได้จริง ซึ่งก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล และตนก็เชื่อว่าพี่สาวยังรักและห่วงลูกอยู่ จึงทำให้เห็นว่ายังใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้ ทั้งที่จริงพี่สาวเสียชีวิตไปนานหลายวันแล้ว จึงทำให้หลานสาวสามารถกินนอนอยู่กับศพได้ตามปกติ

สำหรับสาเหตุการเสียชีวิต ญาติเชื่อว่าน่าจะมาจากโรคประจำตัวกำเริบ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อประมาณเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา น.ส.เอ ติดเชื้อโควิด-19 และรับการรักษาจนหายก่อนจะกลับมาพักฟื้นที่บ้านพัก จากนั้นก็ป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งยังอาการไม่ดีขึ้น ระหว่างพักรักษาตัวอยู่บ้าน น้องสาวจะโทรศัพท์มาหาผู้ตายตลอด สำหรับสาเหตุที่พบว่า ผู้ตายเสียชีวิตโดนเปลือยท่อนล่าง เป็นเพราะลูกสาวคอยเช็ดตัวให้ อีกทั้งผู้ตายยังเคยบ่นว่าร้อนถึงได้ถอดกางเกงออก และใช้ผ้าห่มเวลานอน.