กรมชลประทานอัปเดตสถานการณ์น้ำเขื่อนพระราม6 ระบุว่า เขื่อนพระราม6 อ.ท่าเรือ จ. พระนครศรีอยุธยา ระบายน้ำในอัตรา 416 ลบ.ม./วินาที เริ่มทยอยปรับลดการระบายในอัตราวันละ 50 ลบ.ม./วินาที เหลือ 250 ลบ.ม./วินาที ภายในวันที่ 12 ตุลาคม 2568 พื้นที่เสี่ยงได้รับผลกระทบ ชุมชนวัดสะตือ ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนพระราม6 ด้วยการระบายน้ำเข้าคลองระพีพัฒน์ เพื่อควบคุมระดับน้ำเหนือเขื่อนให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมและช่วยลดผลกระทบด้านท้ายน้ำให้ได้มากที่สุด ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำและติดตามข่าวสารจากทางหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มมากขึ้น และมีความจำเป็นต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป
ส่วนสถานการณ์น้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 717 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 75% ของความจุอ่างฯ ระบายน้ำในอัตรา 300 ลบ.ม./วินาที เริ่มทยอยปรับลดการระบายในอัตราวันละ 50 ลบ.ม./วินาที เหลือ 200 ลบ.ม./วินาที ภายในวันที่ 10 ตุลาคม 2568 ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำและติดตามข่าวสารจากทางหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด หากปริมาณน้ำทางตอนบนเพิ่มมากขึ้น และมีความจำเป็นต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป
ขณะที่สถานการณ์น้ำเจ้าพระยา สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,759 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำ 24.43 ม. (ต่ำกว่าตลิ่ง 1.27 ม.) เพิ่มขึ้น สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,400 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อน 15.94 ม. ระดับน้ำท้ายเขื่อน 15.70 ม. (ต่ำกว่าตลิ่ง 64 ซม.) บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการหน่วงน้ำไว้ด้านเหนือ พร้อมรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่ง ตามศักยภาพของคลอง เพื่อลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด พื้นที่นอกคั้นกันน้ำบริเวณด้านท้ายเขื่อนที่ได้รับผลกระทบ คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง วัดไชโย จังหวัดอ่างทอง อำเภอป่าโมก จังหวะดอ่างทอง คลองบางบาล ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่อยู่ติดกับแม่น้ำน้อย วัดสิงห์ อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี วัดเสือข้าม อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ตำบลโพนางดำ อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท
หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป



