กรณี กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ประกาศขายทอดตลาด โรงแรมดาราเทวี ที่สำนักงานบังคับคดี จ.เชียงใหม่ ราคาเริ่มต้นประมูลกว่า 2.11 พันล้านบาท โดยมีการประมูลอุปกรณ์ต่างของทางโรงแรมไปแล้วก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมบังคับคดี จัดขายทอดตลาด โรงแรมดาราเทวี ครั้งที่ 1 ด้วยราคาเริ่มต้นประมูลกว่า 2.11 พันล้านบาท ถือว่าเป็นราคาเริ่มต้นน้อยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ของราคาที่บริษัทไอเฟคซื้อเมื่อช่วงเดือนธ.ค.2558 ที่ใช้เงินกว่า 2.52 พันล้านบาท ในการเข้าซื้อหุ้น แต่เมื่อนับรวมมูลค่าหนี้สินแล้วคิดเป็นเงิน 4.3 พันล้านบาท โดยวันนี้มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมประมูล วางเงินประกัน 110 ล้านบาท เพียงรายเดียวคือบริษัท ไฮไลฟ์ แอสเสท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งโดยกลุ่มผู้พัฒนาสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่

ประมูลโรงแรมดาราเทวีคึกคัก เฉพาะเครื่องจักรอุปกรณ์สำนักงานพุ่ง 140 ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการประมูลขายทอดตลาด เจ้าพนักงานบังคับคดีเริ่มต้นการขายทอดตลาด โดยสอบถามผู้เข้าสู้ราคาว่า จะรับราคาเริ่มต้น 2,116 ล้านบาทหรือไม่ ปรากฏว่าผู้เข้าสู้ราคา บริษัทไฮไลฟ์ แอสเสท จำกัด ไม่รับราคา ทำให้เจ้าพนักงานบังคับคดีเชียงใหม่ ต้องประกาศให้ขายตลาดโรงแรมดาราเทวี ครั้งที่ 2 ในวันที่ 24 ธ.ค.นี้อีกครั้ง โดยจะมีราคาเริ่มต้นการขายทอดตลาดที่ 1,904 ล้านบาท (90% ของราคาประมูลครั้งแรก) โดยตัวแทนบริษัทไฮไลฟ์ฯ ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า การประมูลครั้งที่ 2 วันที่ 24 ธ.ค.นี้ ทางบริษัทจะเข้าร่วมประมูลด้วย ส่วนจะตัดสินใจเคาะซื้อหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแข่งขันในการประมูลครั้งหน้า

นายกรภัทร จันทรังษี กรรมการผู้จัดการบริษัทบริหารสินทรัพย์โกลบอลวัน จำกัด เจ้าหนี้ผู้รับจำนองเปิดเผยว่าพอใจกับการขายทอดตลาดครั้งที่ 1 ของบริษัทโรงแรมดาราเทวี หลังจากที่ถูกขัดขวางการขายทอดตลาดมานาน และเข้าใจดีว่า เมื่อมีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลเพียงรายเดียวย่อมทำให้ผู้เข้าประมูลเลือกที่จะไม่เสนอราคาเพื่อรอให้ราคาเริ่มต้นการประมูลครั้งที่สองลดลงไป 10% แล้วจึงจะตัดสินใจใหม่ แต่หากว่าราคาเริ่มต้นประมูลต้องลดลงไปอีกเป็นครั้งที่ 3 เหลือเพียง 1,692 ล้านบาท เจ้าหนี้ก็จะเข้ามาใช้สิทธิซื้อโรงแรมดาราเทวี โดยใช้วิธีหักส่วนได้ใช้แทนทันทีต่อไป