“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย อยู่ในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” โดยในกลุ่ม A หลังจาก “ช้างศึก” ถล่ม เมียนมา 4-0 คว้าชัยนัดที่ 2 เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. พร้อมนำจ่าฝูงแล้ว ยังเหลืออีก 2 เกม คือ วันที่ 14 ธ.ค. พบ ฟิลิปปินส์ เวลา 16.30 น. และวันที่ 18 ธ.ค. พบ สิงคโปร์ เวลา 19.30 น. ช่อง 7 HD ถ่ายทอดสด

ส่วนกลุ่ม B นั้น สถานการณ์ล่าสุด มาเลเซีย ชนะ 2 เกมรวด มี 6 แต้ม ตามด้วย อินโดนีเซีย กับ เวียดนาม ต่างชนะเกมแรก มี 3 แต้ม, กัมพูชา กับ ลาว แพ้ 2 เกมรวด

ผู้สื่อข่าวสอบถาม นายจเด็จ มีลาภ ผู้ช่วยโค้ชทีมชาติไทย ถึงผลงานของ 2 ทีมเต็งคือ “แชมป์เก่า” เวียดนาม และ “เสือเหลือง” มาเลเซีย ที่ในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ครั้งล่าสุด เขี่ยทีมชาติไทย ตกรอบรองชนะเลิศ

นายจเด็จ กล่าวว่า ตนเองและทีมสตาฟฟ์โค้ช ก็ได้ติดตามฟอร์มอีกกลุ่มไว้ เพราะมีโอกาสเจอกันในรอบต่อไป โดยเวียดนามนั้น เล่นด้วยกันมานาน มีทีมเวิร์กดี มีวินัยดี เรื่องวินัยนี้ ไม่ใช่แค่ในสนาม แต่ยังถึงนอกสนามด้วย อย่างตอนอยู่โรงแรม เห็นว่าเวลา เวียดนาม ประชุมทีม ทุกคนจะถือสมุดคนละเล่ม ปากกาคนละด้าม เพื่อจดเนื้อหาสาระสำคัญในการประชุม เรียนรู้แทคติก แม้แต่การแต่งตัวก็มีความเป็นทีมสูง ไปเล่นฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก มาด้วยกัน เตรียมตัวต่อเนื่อง ดังเรื่องแทคติกจะดีมาก

มาสเตอร์เด็จ กล่าวต่อไปว่า ส่วนมาเลเซีย มาตรฐานดีมาก ดูการเล่นแล้วมีทีมเวิร์ก มีการเก็บตัวที่นานเช่นกัน มาอยู่ด้วยกัน การสร้างทีมขึ้นมา ค่อนข้างชัดเจน ถือว่าเป็นทีมที่มีทีมเวิร์กที่น่ากลัวทั้ง 2 ทีม

สำหรับทีมไทย เพิ่งดวลกับ ทั้งเวียดนาม, มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย ในฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก รอบ 2 โดยกับ เวียดนาม เสมอ 0-0 ทั้ง 2 นัด ส่วนมาเลเซีย ไทยแพ้ทั้ง 2 นัด (ที่มาเลเซีย 1-2, ที่ยูเออี 0-1) ขณะที่กับ อินโดนีเซีย นั้น ไทยบุกชนะ 3-0 และไปเสมอ ที่ยูเออี 2-2