สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเยรูซาเลม ประเทศอิสราเอล ว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ค. นาฟตาลี เบนเน็ตต์ นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวว่าอิสราเอลสามารถเอาชนะการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา ระลอกล่าสุดได้โดยไม่จำเป็นต้องมีการล็อกดาวน์เพิ่มเติม

เบนเน็ตต์แถลงข่าวทางโทรทัศน์ว่านอกเหนือจากการยกระดับการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ การหยุดการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์เดลตา ขึ้นอยู่กับการที่ผู้คนสวมหน้ากากอนามัยและรักษาระยะห่างทางสังคมด้วย ขณะเดียวกันตำรวจได้รับคำสั่งให้ส่งเสริมการบังคับใช้ข้อกำหนดสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่ปิด โดยจะมีการปรับเงินจำนวนสูงสำหรับผู้ฝ่าฝืนข้อกำหนด

ส่วนการล็อกดาวน์ทั่วประเทศจะเป็น “ทางเลือกสุดท้าย” เนื่องจากรัฐบาลไม่ต้องการทำลายเศรษฐกิจท้องถิ่นไปมากกว่านี้ เบนเน็ตต์เรียกร้องชาวอิสราเอลเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชี้ว่าวัคซีนช่วย “ลดการติดเชื้อและความรุนแรงของโรคในหมู่ผู้ติดเชื้อ” รวมถึงเรียกร้องชาวอิสราเอลรักษาระยะห่างทางสังคมในงานต่างๆ อาทิ งานแต่งงาน งานเลี้ยงวันเกิด และคอนเสิร์ต โดย “หยุดจับมือ หยุดกอดจูบ เว้นเพียงคนในครอบครัวเดียวกัน”

เบนเน็ตต์ยังเรียกร้องชาวอิสราเอลไม่เดินทางไปยังประเทศที่เชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์เดลตา แพร่ระบาดด้วย

กระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอลรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อทยอยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการระบาดของเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์เดลตา โดยส่วนใหญ่อาการเล็กน้อยหรือไม่แสดงอาการ ทั้งนี้ ประชากรราวร้อยละ 61 จากทั้งหมด 9.3 ล้านคนของอิสราเอลได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างน้อยหนึ่งโด๊ส ขณะประชากรราวร้อยละ 55 ได้รับวัคซีนครบสองโด๊สแล้ว โดยส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนของไฟเซอร์..

เครดิตภาพ-ข่าว : ซินหัว