เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดโนนชัยวนาราม บ้านโนนชัย ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น นางเกตุเลขา เพียรพานิช อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/5 หมู่ 12 ซอยราษฎร์คะนึง 15 ถนนราษฎร์คนึง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้จัดการฌาปนกิจศพ นายมนัส เพียรพานิช อายุ 72 ปี ข้าราชการบำนาญ ซึ่งเสียชีวิตด้วยการถูกทำร้ายร่างกาย โดยมีเครือญาติและผู้ที่รู้จักเคารพนับถือมาร่วมงานจำนวนมาก

นางเกตุเลขา เปิดเผยว่า ตนเป็นลูกสะใภ้ของนายมนัสผู้ตาย โดยพ่อป่วยเป็นไซนัสจะมีปัญหาเรื่องกลิ่นที่ร้านขายขนมจีน-ไก่ย่างหน้าบ้าน ซึ่งไม่ถูกสุขลักษณะ เพราะไม่มีที่ดูดควันขึ้น ควันจึงเลยพัดไปทางบ้านของตนตลอดเวลา แล้วพ่อก็เริ่มแพ้ฝุ่นและควัน จนมีอาการหนักถึงขนาดน้ำตาน้ำมูกไหล จนต้องขอเจรจากับทางร้านและแจ้งทางสาธารณสุขได้เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งทางสาธารณสุขได้ไกล่เกลี่ยกันว่าจะให้แก้ไขปัญหา แต่เขาไม่ทำอะไร ต่อมาวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา พ่อได้มาเจรจากับเจ้าของร้าน ซึ่งลูกชายของเจ้าของร้านก็มาพอดี หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ชุลมุนกันขึ้นจนพ่อล้มลง โดยมีพลเมืองดีเห็นเหตุการณ์ตอนพ่อล้ม และได้รีบวิ่งออกมาช่วยห้ามไว้ และได้อุ้มประคองพาพ่อตนกลับมาบ้าน

นางเกตุเลขา กล่าวต่อว่า ถัดมาวันที่ 9 ธ.ค. คู่กรณีได้นำน้ำล้างจานมาสาดใส่หน้าบ้าน โดยพ่อกับแม่ตนได้ออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะว่าได้ยินเสียงและพื้นหน้าบ้านเปียกมีกลิ่นเหม็น พ่อเลยเดินไปถามเขา แม่ของคู่กรณีก็เลยออกมาจากร้านมีปากเสียงกับพ่อตรงกลางระหว่างร้านเขากับบ้านเราก็คุยกันเคลียร์กันว่าจะเอายังไง ทำไมได้มาสาดน้ำหน้าบ้าน แล้วแม่คู่กรณีพยายามเดินเข้ามาจะทำร้ายร่างกายคุณพ่อ แต่ว่ามีพลเมืองดีห้ามไว้ทัน ผ่านไปสักพักแม่ของคู่กรณีถือไม้มาด้วย คุณพ่อก็เลยหยิบไม้มาด้วยไว้เพื่อขู่และป้องกันตัวเอง จากนั้นลูกชายของคู่กรณีเลยมาดึงไม้ออกจากมือพ่อจนล้มหัวฟาดพื้นไม่ได้สติ และเตะซ้ำเข้าที่ท้องอีกหลายครั้ง ทั้งที่พ่อหมดสติไปแล้ว มีน้ำลายและน้ำเหลืองๆ ออกจากปากแล้ว ก็เลยให้เรียกรถพยาบาลนำส่ง รพ.ขอนแก่น เพราะว่าเลือดมันไหลออกจากสมองและเลือดออกที่ช่องท้องซึ่งเป็นผล ทำให้อาการแย่ลงที่สมอง หมอเลยให้เวลาแค่ 10 นาที ในการตัดสินใจว่าจะผ่าตัดไหม ถ้าไม่ผ่าตัดพ่อก็เป็นเจ้าชายนิทราไป จึงตัดสินใจให้ผ่า แต่ต่อมาได้เสียชีวิต

“ได้ไปแจ้งความที่ สภ.ย่อยศิลา ข้อหาทำร้ายร่างกายที่ศีรษะช้ำเลือดในสมองทำให้ถึงแก่ความตาย โดยต้องการให้ทุกอย่างเป็นตามขั้นตอนของกฎหมาย เพราะพ่อของคู่กรณีมางานศพ แต่คนที่เป็นลูกคู่กรณีไม่ได้มาด้วย คนที่ทำร้ายคุณพ่อ เขามาถ่ายรูปพร้อมพวงหรีด และเงินใส่ซอง แต่ทางเราไม่ขอรับไว้เพราะคนที่ทำ ไม่ได้มาขอขมาหรือมาขอโทษ” นางเกตุเลขา กล่าว

นางอำนวย เพียรพานิชย์ อายุ 73 ปี ภรรยาผู้ตาย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. เวลาประมาณ 08.30 น. สามีตนได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับนายวัฒนพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของร้านขนมจีนหล่มเก่า อยู่หน้าบ้านของตน ระหว่างทะเลาะวิวาท สามีตนได้หยิบไม้ที่หน้าบ้านมาป้องกันตัวเอง แต่กลับถูกนายวัฒนพงษ์ ใช้มือผลักจนล้มศีรษะฟาดพื้น และเตะซ้ำ หลังจากนั้น ได้แยกย้ายกันไป โดยรถกู้ชีพมารับตัวสามีตนส่ง รพ.ขอนแก่น ผ่าตัดสมอง นอนรักษาตัวตั้งแต่วันที่ 9 ถึง 13 ธ.ค. ก่อนเสียชีวิต โดยแพทย์ลงความเห็นว่า เลือดออกในกะโหลกศีรษะ และสมองช้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน สภ.ย่อยศิลา ได้รายงานเหตุให้ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ทราบ และสั่งการให้รีบสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย และกำชับการดำเนินคดีให้เป็นไปตามกฎหมายต่อไป และดำเนินคดีกับนายวัฒนพงษ์ โดยกล่าวหาว่า ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และทะเลาะวิวาท ซึ่งผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยรับว่าได้ทำร้ายผู้ตายจริงแต่ทำไปเพื่อป้องกันมารดาและตนเอง

สาเหตุเบื้องต้นเกิดจากทั้งสองฝ่ายเคยมีเรื่องไม่พอใจกันเรื่องกลิ่นและควัน ในการทำอาหารของร้านขนมจีนหล่มเก่า ซึ่งอยู่ห่างกัน 2 หลังคาเรือน เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ตามคดีอาญาที่ 2583/64 คดีอยู่ระหว่างสอบสวน ทั้งนี้ ทางครอบครัวนางเกตุเลขา ได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน เนื่องจากผู้ลงมือก่อเหตุเป็นลูกชายอดีตนายทหาร ที่เกรงว่าจะมีการวิ่งเต้นคดีและไม่ได้รับความเป็นธรรม.