สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ว่าบริษัทไฟเซอร์เผยแพร่รายงาน เมื่อวันศุกร์ คาดการณ์สถานการณ์โรคโควิด-19 ว่าทิศทางในปี 2565 จะยังคงสถานะเป็น “การแพร่ระบาดใหญ่” หรือ “โรคระบาดที่แพร่กระจายไปทั่วโลก ส่งผลให้มีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก” อย่างไรก็ตาม โรคโควิด-19 จะกลายสภาพเป็น “โรคประจำถิ่น” ภายในปี 2567


ขณะเดียวกัน ไฟเซอร์ยังใช้โอกาสนี้ประกาศแผนกาพัฒนาวัคซีนโควิด-19 แบบฉีด 3 เข็ม สำหรับประชากรวัยทารกและก่อนเข้าเรียนอนุบาล โดยอ้างอิงผลการวิจัยเบื้องต้นจากกลุ่มตัวอย่างขนาดเล็ก ซึ่งรับวัคซีนที่ไฟเซอร์พัฒนาร่วมกับบริษัทไบโอเอ็นเทคของเยอรมนี ในปริมาณเพียง 3 ไมโครกรัม หรือน้อยกว่าวัคซีนที่ฉีดให้กับผู้ใหญ่ถึง 10 เท่า แต่วัคซีนปริมาณเท่านั้นกลับยังไม่สามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ได้ในระดับที่ไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค “คาดหวังเอาไว้” โดยเฉพาะในอาสาสมัครอายุระหว่าง 2-4 ปี


ทั้งนี้ ไฟเซอร์วางแผนให้การฉีดวัคซีนเข็มที่สามทิ้งช่วงจากเข็มที่สอง นานอย่างน้อย 2 เดือน สำหรับผู้มีอายุ 6 เดือน จนถึง 5 ปี ส่วนประชากรอายุมากกว่านั้นจนถึง 16 ปี ซึ่งได้รับวัคซีนสองเข็มแล้ว อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเตรียมการใช้วัคซีนเข็มที่สาม.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES