เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยงจังหวัดศรีสะเกษ นำคณะกรรมการสมาคมฯ พร้อมด้วย พ.ต.อ.พฤทธิ์ บุญปก ผกก.สภ.ขุนหาญ และคณะ นำสื่อมวลชนลงพื้นที่สำรวจแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ บริเวณหน้าผาจันทร์แดง ชายแดนไทย-กัมพูชา เทือกเขาพนมดงรัก พื้นที่บ้านจันทร์แดง หมู่ 11 ต.บักดอง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เป็นโขดหินสลับทับซ้อนกันไปมาสวยงาม และมีหน้าผาสูงชัน ท่ามกลางป่าเขาอุดมสมบูรณ์ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ และมุมถ่ายภาพมากมายหลายจุด เช่นบริเวณ หินหัวงูใหญ่ ลักษณะมีตา ปากคล้ายหัวงู ชูคอยื่นออกมาจากหน้าผา รวมถึงผาหินหน้าคน ที่มีลักษณะคล้ายกับใบหน้าคน และจุดเช็กอินใหม่คล้ายผาหล่มสัก ภูกระดึง จ.เลย ที่มีลักษณะหินยื่นโผล่ออกมาจากหน้าผา เหมาะสำหรับชมทะเลหมอกในตอนเช้า และดูพระอาทิตย์ตกดินในช่วงค่ำ

ดร.กัลยาณี กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ จึงเป็นโอกาสดีที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น ซึ่งแต่ละจังหวัดก็มีแหล่งท่องเที่ยว มีวิถีชีวิต มีชุมชนต่างๆ เป็นสินค้านำเสนอดึงดูดนักท่องเที่ยวไปชม ซึ่งครั้งนี้ตนได้พบสถานที่ท่องเที่ยวที่จะเป็น unseen แห่งใหม่ให้ผู้ที่สนใจติดตามชม เพราะนอกจาก จ.ศรีสะเกษ จะมี “ผามออีแดง” ที่อยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.กันทรลักษ์ แล้ว เรายังค้นพบ “ผาจันทร์แดง” เขต อ.ขุนหาญ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เชื่อว่านักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติต้องให้ความสนใจเป็นอย่างมากอย่างแน่นอน เพราะบริเวณนี้เป็นลานหิน หน้าผารูปร่างแปลก ชะง่อนผารูปร่างต่างๆ มีทัศนียภาพกว้างไกลสวยงามสุดสายตา เหมาะแก่การมาเที่ยวชมโดยเฉพาะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือวันหยุดยาว ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 นี้ด้วย

นอกจากจุดนี้แล้วยังมีจุดพักผ่อนกางเต็นท์สำหรับนักเดินทางที่ชื่นชอบเที่ยวแคมป์ ซึ่งอยู่ติดกับลำห้วยทา หรือที่พักโรงแรม รีสอร์ท บรรยากาศดีอีกหลายแห่ง จุดนี้สามารถเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงทุ่งกบาลกระไบ น้ำตกสำโรงเกียรติ น้ำตกห้วยจันทร์ และเที่ยวชมสวนทุเรียนภูเขาไฟได้อีกด้วย จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้ามาเช็กอินเยี่ยมชมความอุดมสมบูรณ์ของ จ.ศรีสะเกษ ที่มีความพร้อมรับนักท่องเที่ยวตามมาตรการป้องกันโควิดอย่างเคร่งครัด รับรองว่าจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะ “อะไร อะไร ก็ดี ที่ศรีสะเกษ”