เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ที่ ห้องประชุมชั้น 2 กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาขบวนการลักลอบขายยานอนหลับ ยาปลุกเซ็กซ์ และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทผ่านเว็บไซต์ หลังสามารถจับกุมนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี และนายบี (นามสมมุติ) อายุ 56 ปี สองผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ2209-2219/2564 ตามลำดับ ลงวันที่ 27 ธ.ค. 64 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันขายยาแผนปัจจุบัน (ยาอันตราย) โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันโฆษณาขายยาโดยไม่ทำให้เข้าใจว่ามีวัตถุใดเป็นตัวยาหรือเป็นส่วนประกอบของยาซึ่งความจริงไม่มีวัตถุหรือส่วนประกอบนั้นในยา และไม่แสดงสรรพคุณยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษ ร่วมกันขายยาที่ไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา” พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือที่ใช้ติดต่อกับลูกค้า และใช้ทำธุรกรรมทางการเงิน 17 เครื่อง แท็บเล็ต 1 เครื่อง, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก, บัตรเอทีเอ็ม, ซิมการ์ดโทรศัพท์ที่จดทะเบียนเป็นชื่อผู้อื่น (เบอร์ผี) ประมาณ 500 หมายเลข, ยาแก้แพ้, ยาปลุกเซ็กซ์, เจลหล่อลื่น และอุกปกรณ์เซ็กซ์ทอยจำนวนมาก โดยสามารถจับกุมนายเอ ได้ภายในซอยงามวงศ์วาน 47 แยก 6-11 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. ส่วนนายบี จับกุมได้ภายในพื้นที่แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม.

พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า ก่อนหน้าเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบเว็บไซต์ที่ลักลอบขายยานอนหลับ, ยาปลุกเซ็กซ์ และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทซึ่งผิดกฎหมาย 4 เว็บไซต์ อีกทั้งยังพบด้วยว่ามีพฤติการณ์หลอกลวงผู้ซื้อ โดยจัดส่งยาที่มิได้มีสรรพคุณตามที่โฆษณา ยาแก้แพ้, แก้เมารถ หรือน้ำเปล่าในขวดยา ที่อาจเป็นอันตรายแก่ผู้ที่สั่งซื้อมาใช้ จึงแกะรอยสืบหาเบาะแสจนทราบว่า เว็บไซต์ทั้ง 4 เว็บดังกล่าวนั้นมีนายเอ และนายบี เป็นเจ้าของ จึงรวบรวมหลักฐานและขออำนาจศาลออกหมายจับจนนำมาสู่การจับกุมตัวพร้อมตรวจยึดของกลางได้ดังกล่าว

พ.ต.อ.เนติ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพ โดยนายเอ ยอมรับว่า มีหน้าที่เปิดเว็บไซต์ และรับออร์เดอร์จากลูกค้า ส่วนนายบี มีหน้าที่คอยส่งยาให้ลูกค้า ส่วนยาที่จัดส่งไปก็จะไม่ใช่ตัวยา หรือวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทตามที่สั่งซื้อแต่อย่างใด แต่จะส่งเป็นยาแก้แพ้ หรือยาแก้เมารถ หรือบางครั้งก็ส่งน้ำเปล่าบรรจุขวดยาไปให้ ส่วนเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ก็จดทะเบียนเป็นชื่อผู้อื่น หรือเบอร์ผี รวมทั้งบัญชีธนาคารที่ใช้รับโอนเงินก็ใช้ชื่อของผู้อื่นด้วย เพื่อป้องกันถูกตามจับกุม และเพื่อยักย้ายถ่ายโอนเงินด้วย ซึ่งผู้ที่หลงเชื่อสั่งซื้อยาเมื่อรู้ว่าถูกหลอก ก็จะไม่กล้าแจ้งความ เพราะเป็นการสั่งซื้อยาโดยผิดกฎหมาย เกรงว่าจะมีความผิดไปด้วย

พ.ต.อ.เนติ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบบัญชีการเงินของผู้ต้องหา พบมียอดเงินหมุนเวียนในบัญชีต่างๆ ประมาณ 10 ล้านบาท ส่วนประวัติของนายเอ พบว่าจบแค่ชั้น ม.6 แต่มีความรู้และเชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์ มีความสนใจเรื่องยานอนหลับ และยาปลุกเซ็กซ์ เมื่อปี 59 เคยถูกจำคุก 3 ปี 6 เดือน ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะหลอกขายยานอนหลับและยาปลุกเซ็กซ์ผ่านเฟซบุ๊ก แต่ไม่ได้ส่งของให้ลูกค้าเหมือนกัน เพิ่งพ้นโทษมาเมื่อ ม.ค. 61 ก่อนจะกลับมาก่อเหตุลักษณะเดียวกันอีก ส่วน นายบี นั้นเคยลักลอบขายยานอนหลับ ยาปลุกเซ็กซ์ และอุปกรณ์ลามกอนาจร ที่ย่านตลาดคลองถม แต่สถานการณ์โควิด-19 จึงต้องปิดร้าน ก่อนมาร่วมกับนายเอ ก่อเหตุอีก เบื้องต้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.