จากกรณี เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกเขาสิบห้าชั้น อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ตรวจพบลูกช้างป่า เพศเมีย อายุประมาณ 4 เดือน เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ติดบ่วงเชือกดักสัตว์ของพรานป่า ขณะเดินเข้าหากินในพื้นที่ป่าอุทยาน จนขาหน้าขวาถูกบ่วงรัดเกือบขาด ขณะที่ต้นขาด้านซ้ายพบรอยกระสุนปืนอีก 10 นัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานทีมสัตว์แพทย์เข้ามาให้การช่วยเหลือ ก่อนจะนำตัวลูกช้างมารักษาและพักฟื้น ณ สวนนงนุช พัทยา จ.ชลบุรี ตั้งแต่ 1 ธ.ค.64 โดยตั้งชื่อว่า “พังฟ้าใส” ซึ่งที่ผ่านมาทีมสัตว์แพทย์ ได้ดำเนินการตัดข้อเท้าขาขวา ที่ถูกบ่วงรัดจนเกือบขาด และผ่าหัวกระสุน ออกไปหมดแล้ว

เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า “พังฟ้าใส” ได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อเวลา 21.45 น. วันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา ด้วยอาการท้องเสียอย่างรุนแรง โดย “พังฟ้าใส” เริ่มมีอาการกินนมน้อย ท้องเสีย ไม่ค่อยมีแรง ทางทีมแพทย์ได้ช่วยกันให้น้ำเกลือ สารอาหาร ยาปฏิชีวนะ ยาบำรุง โปรไบโอติก ออกซิเจน และงดทำแผลก่อน 1 วัน จากนั้น พังฟ้าใส เริ่มซึมไม่ค่อยมีแรงอีกครั้ง อุณหภูมิร่างกายตก เลยต้องห่มผ้า ประคบร้อน มีทีมสัตว์แพทย์ได้ดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตพังฟ้าใสไว้ได้

ทั้งนี้ทางกรมอุทยานนำโดย นายรวมศิลป์ มานะจงประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่ อนุรักษ์ที่ 2 พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยาน ทีมสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่สวนนงนุชพัทยา พร้อมด้วยควาญช้าง ได้ร่วมมาดูศพพังฟ้าใส ด้วยอาการเศร้าเสียใจ โดยเฉพาะควาญช้าง ผู้ดูแลอย่างใกล้ชิดมาตลอด 1 เดือน โดยนายสัตวแพทย์เผด็จ ศิริดำรง สัตวแพทย์ประจำสวนนงนุช กล่าวว่า สำหรับการเสียชีวิตของพังฟ้าใสที่ได้รับบาดเจ็บมาอย่างหนักและเรื้อรัง ก่อนนำมารักษาที่นี่เพื่อฟื้นฟูบาดแผล ซึ่งอาการดีขึ้นมาก แต่ภายหลังพบว่ามีปัญหาเรื่องนม ซึ่งนมจากแม่ช้างนั้นไม่เพียงพอ เพราะต้องรักษาตัวนานหลายเดือน ทางสวนนงนุชพยายามขอปางช้างอื่นก็ไม่มี ซึ่งก็พยายามประคองอาการให้ถึงเดือนหน้า เพราะช้างสวนนงนุชจะตกลูกอีก 2 เชือก จะได้นำนมแม่ช้างมาให้พังฟ้าใส แต่สุดท้ายก็ไม่ทัน ภูมิต้านทางน้อยลง มีโรคทางเดินอาหารเป็น ๆ หาย ๆ ซึ่งเราก็พยายามดูแลอย่างใกล้ชิด และดูแลแบบดีที่สุด สำหรับการเสียชีวิตนั้นสรุปว่า เป็นโรคทางเดินอาหารล้มเหลว

ขณะที่ นายรวมศิลป์ มานะจงประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่ อนุรักษ์ที่ 2 กล่าวว่า จากนี้จะนำ “พังฟ้าใส” ไปที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาชีโอน เพื่อไปทำพิธีสงฆ์ ผ่าพิสูจน์ฝังลูกช้างป่า โดยทางอธิบดีมีความห่วงใย และขอแสดงความเสียใจด้วย ทางอุทยานฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์ มาคอยดูแลพังฟ้าใสอย่างใกล้ชิดตลอดแล้ว.