สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ว่า นพ.อับดี มาฮามุด จากทีมสนับสนุนด้านการอุบัติการณ์ ขององค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) แถลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ โอมิครอน ยืนยันการพบผู้ติดเชื้อในอย่างน้อย 128 ประเทศและดินแดน นับตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว


ทั้งนี้ นพ.มาฮามุด กล่าวว่า “เป็นสัญญาณดี” ที่อัตราการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และการเสียชีวิตจากเชื้อโอมิครอนยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาวิจัยที่ออกมามากขึ้น ว่าเชื้อโอมิครอนมักก่อให้เกิดอาการบริเวณระบบทางเดินหายใจส่วนบน และไม่มีลักษณะลงปอด


อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายยังไม่ควรชะล่าใจ เนื่องจากการที่เชื้อตัวนี้มีคุณลักษณะแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว แน่นอนจะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นก้าวกระโดด ประเทศที่ยังมีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ และระบบสาธารณสุขยังไม่ได้มาตรฐาน ตลอดจนมาตรการควบคุมไม่เข้มแข็งพอ จะได้รับแรงเสียดทานจากเชื้อโอมิครอนอย่างมาก


เกี่ยวกับรายงานจากอิสราเอล ซึ่งพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาและไวรัสไข้หวัดใหญ่ในเวลาเดียวกัน นพ.มาฮามุด กล่าวว่า “ไม่ใช่เรื่องแปลก” เพราะเชื้อโรคทั้งสองชนิดมีวิธีโจมตีร่างกายในรูปแบบแตกต่างกัน และขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เนื่องจาก “มีความเสี่ยงน้อยมาก” ที่เชื้อไวรัสทั้งสองตัวจะรวมตัวกัน แล้วกลายเป็นเชื้อไวรัสตัวใหม่


ในภาพรวม นพ.มาฮามุดกล่าวว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนใหญ่มีอาการดีขึ้นและหายจากโรค ภายในเวลา 5-7 วัน นับตั้งแต่แสดงอาการ และดับเบิลยูเอชโอยังคงแนะนำระยะเวลาของการกักตัวไว้ที่ 14 วัน อย่างไรก็ดี การกำหนดระยะเวลานั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละประเทศด้วย.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES