สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ว่า นพ.เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ โอมิครอน ว่าแม้ก่อให้เกิดอาการป่วยในระดับ “หนักน้อยกว่า” เมื่อเทียบกับเชื้อเดลตา โดยเฉพาะในผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบแล้ว แต่ทุกฝ่ายยังไม่ควรชะล่าใจว่าเชื้อตัวนี้ “ไม่รุนแรง” หรือ “อ่อน”


นพ.เทดรอส เน้นย้ำว่า เชื้อโอมิครอนยังคงมีคุณลักษณะเหมือนเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ตัวอื่น นั่นคือ ทำให้ทุกคนป่วยและเสียชีวิตได้ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เชื้อเดลตายังคงเป็นสายพันธุ์หลักของโลกในภาพรวม แต่การที่มีเชื้อโอมิครอนเข้ามาร่วมด้วย ดับเบิลยูเอชโอยิ่งมีความวิตกกังวล เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เรียกว่า “สึนามิ” ของการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด


ขณะเดียวกัน นพ.เทดรอส กล่าวถึงสถิติการฉีดวัคซีนของแต่ละประเทศบนโลก ว่าจากเป้าหมายที่ดับเบิลยูเอชโอ ซึ่งต้องการให้ทุกประเทศฉีดวัคซีนอย่างน้อยสองเข็ม ให้ครอบคลุมประชากรไม่ต่ำกว่า 70% ภายในเดือน ก.ค.นี้ แต่มีแนวโน้มว่า อย่างน้อย 109 ประเทศจะไม่สามารถร่วมบรรลุเป้าหมายนั้นได้ เนื่องจากยังไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนอย่างเพียงพอ และยังคงมีอุปกสรรคในเรื่องของการกระจายวัคซีน


สำหรับสถิติการติดเชื้อไวรัสโคโรนา รวบรวมโดยดับเบิลยูเอชโอในรอบสัปดาห์ล่าสุด จนถึงวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 9.5 ล้านคน คิดเป็น 71% แต่สถิติผู้เสียชีวิตในรอบ 7 วันล่าสุดลดลง 10% อยู่ที่ประมาณ 41,000 ราย


เกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ บี.1.640 ซึ่งมีการยืนยันผู้ป่วยในหลายประเทศ ตั้งแต่เดือน ก.ย.ปีที่แล้ว “เป็นหนึ่งในหลายสายพันธุ์” ที่ดับเบิลยูเอชโอจับตามานานระยะหนึ่งแล้ว และจนถึงขณะนี้ เชื้อตัวดังกล่าวยังคงแพร่กระจาย “อยู่ในวงจำกัด”.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES