เมื่อวันที่ 8 ม.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า รัฐบาลต้องเตรียมระบบสาธารณสุขให้พร้อมเพื่อไม่ให้มีคนไทยตายข้างถนนหรือตายคาบ้านอีก ว่า ยืนยันว่ารัฐบาลได้ทำไปหมดแล้ว เพราะเป็นไปตามที่ ศบค.คาดการณ์ไว้ หากนายพิธาอ่านข่าวสารรอบด้านบ้างก็จะรู้ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้สั่งการให้เตรียมพร้อมไว้ก่อนแล้วส่วนการฉีดวัคซีนเด็ก 5-11 ปี คาดว่าจะเริ่มฉีดได้ในช่วงเดือน ก.พ. โดยการฉีดนั้นจะขึ้นอยู่กับความสมัครใจของเด็กและผู้ปกครอง ซึ่งขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการอยู่ระหว่างการสำรวจความสมัครใจ โดยสถานที่ฉีดจะใช้โรงเรียนเป็นจุดฉีดหลักร่วมกับจุดฉีดที่โรงพยาบาล ทั้งนี้ ในปี 65 รัฐบาลเตรียมจัดหาวัคซีนจำนวน 120 ล้านโด๊ส เพื่อฉีดเป็นเข็มกระตุ้นให้แก่ประชาชน รวมถึงฉีดให้กับกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปีด้วย ดังนั้น ไม่อยากให้นายพิธาทำตัวเหมือนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ที่ด้อยค่าวัคซีน แต่กลับรีบไปฉีดก่อนเพื่อน
นายธนกร ยังกล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนที่เพิ่มขึ้น กังวลว่ารัฐบาลจะไม่สามารถป้องกันและรับมือกับสถานการณ์การระบาดได้ ว่า การกระทำเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพิกเฉยต่อการระบาด ติดตามประเมินผลอยู่เสมอ ไม่มีทางที่จะปล่อยให้สถานการณ์บานปลายเหมือนที่โฆษกพรรคเพื่อไทยกังวลแน่นอน และนายกฯ ไม่เคยคิดควบรวมอำนาจการบริหารไว้คนเดียว แต่ละกระทรวงมีรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกำกับดูแลอยู่แล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีใช้การบูรณาการงานของทุกส่วนราชการเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติและประชาชนมาตลอด
“ส่วนกรณีที่ระบุว่า ใช้งบประมาณแผ่นดินไป 25 ล้านล้านบาท กู้เงินรวมกว่า 5 ล้านล้านบาท หนี้สาธารณะกว่า 9 ล้านล้านบาท แต่คุณภาพชีวิตคนไทยกลับแย่ลงทุกวันนั้น ยืนยันว่า การใช้งบประมาณแผ่นดินเป็นไปตามกรอบงบประมาณ ไม่เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นเหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา ดังนั้นหวังว่าโฆษกพรรคเพื่อไทย รวมถึงคนเห็นต่างกับรัฐบาล จะหยุดกล่าวหา หยุดซ้ำเติมให้ประเทศชาติและประชาชนเสียหายไปมากกว่านี้ อย่าทำเหมือนสุภาษิตที่ว่า มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ ควรร่วมมือกันก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปให้ได้” นายธนกร กล่าว.