ภายหลังจากที่อดีตพระมหาไพรวัลย์ ได้สึกออกมาจากผ้าเหลือง โดยใช้ชื่อว่า นายไพรวัลย์ วรรณบุตร เป็นราษฎรเต็มขั้น อย่างไรก็ตามหลังจากสึก ได้มีบางคนตั้งคำถามว่า “ไพรวัลย์ วรรณบุตร”เป็นเพศสภาพหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้มีคำตอบ

เมื่อวันที่ 9 ม.ค.นายไพรวัลย์ วรรณบุตร อดีตพระชื่อดัง ได้โพสต์ถึงกรณีดังกล่าวว่า พูดเรื่องเพศสภาพ หลายคนคงสงสัยว่า ทำไมผมถึงไม่ยืนยันว่า ผมเป็นผู้ชายแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ หรือไม่พูดให้ชัดๆไปเลยว่า ตัวเองชอบผู้หญิงหรือผู้ชาย ผมอยากจะพูดให้ชัดตรงนี้เลยว่า นี่คือความตั้งใจของผมที่ต้องการให้เป็นแบบนั้น

ผมอยากให้สังคม โดยเฉพาะก็สื่อเข้าใจเสียทีว่า ไม่ว่าการจะชอบเพศไหน หรือการมีรสนิยมทางเพศแบบใด มันคือเรื่องส่วนบุคคลของคนอื่นที่เราไม่มีสิทธิเข้าไปยุ่มย่าม ไม่สิทธิตัดสินหรือกำหนดกฎเกณฑ์ แม้เพียงการพยายามเค้นถามเรื่องพวกนี้ ก็เป็นอะไรที่ไร้มารยาทและดูไม่มีการศึกษาสุดๆ

ผมพยายามจะทำให้สังคมมองเห็นว่า การที่ใครสักคนจะมีรสนิยมทางเพศแบบไหนมันปกติมากๆ (เน้นคำว่า ปกติมากๆ) ผู้ชายรักผู้หญิง ผู้หญิงรักผู้ชาย ผู้ชายรักผู้ชาย และผู้หญิงรักผู้หญิง หรืออื่นๆ อีกมากมาย นี่มันคือเรื่องปกติ

มากไปกว่านั้น แม้การไม่ชัดเจนเรื่องเพศสภาพก็เป็นเรื่องปกติ การที่ใครสักคนไม่ปิดกั้นตัวเองว่า ควรจะต้องมีคู่รักเป็นคนเพศสภาพแบบไหน การที่ใครสักคนซึ่งเคยชอบผู้หญิงแล้วจะเปลี่ยนมาชอบผู้ชาย หรือการที่ใครสักคนซึ่งเคยชอบผู้ชายจะเปลี่ยนมาชอบผู้หญิง นี่ก็เป็นเรื่องปกติ

(ปกติชนิดที่ไม่ควรตั้งคำถาม เพื่อทำให้ดูเหมือนว่า มันไม่ปกติ หรือเป็นเรื่องผิดแปลกอะไร)

สำหรับผม สังคมไหนก็ตามที่ยังซอกแซกเรื่องส่วนบุคคลของคนอื่น เรื่องรสนิยม ไม่ว่าจะรสนิยมทางเพศ รสนิยมทางการแต่งตัว และอื่นๆ สังคมที่ยังมาตั้งคำถามเสร่อๆ แบบหน้าตาลอยว่า แมนหรือเปล่า แมนร้อยเปอร์เซ็นต์ไหม เป็นสังคมที่การศึกษายังไม่พัฒนานะ และควรจะต้องพัฒนาได้แล้ว