กรณีเพื่อนบ้านปืนดุบุกยิงจ่าสิบเอกเรวัต เรืองช่วย อายุ 59 ปี อดีตสารวัตรทหารค่ายทหารแห่งหนึ่งที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เสียชีวิตคาม้านั่งหินอ่อนบริเวณคอกเลี้ยงไก่ชนหลังบ้านเลขที่ 126/2 หมู่ 6 บ้านบ่อระกำ ต.พะวง อ.เมืองสงขลา เมื่อกลางดึกของวันนี้ (10 ม.ค.) โดยพบว่าถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม. จากข้างหลังรวม 6 นัด กระสุนถูกบริเวณหัวไหล่คอและศรีษะ โดยผู้ก่อเหตุคือ นายประมุข หรือดำ จิตจันทร์ อายุ 49 ปี หลังก่อเหตุได้ขึ่รถจยย.หลบหนีไป ซึ่งสาเหตุมาจากเรื่องที่นายประมุข ไม่พอใจที่ไก่ร้องเสียงดัง และคิดว่าผู้ตายวางยาเบื่อสุนัขของตัวเองที่ไปกัดไก่ตาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

คืบหน้าล่าสุด นายประมุข หรือดำ ผู้ก่อเหตุแล้ว ได้ติดต่อเข้ามอบตัวกับตำรวจชุดสืบสวนกองกำกับการตำรวจภูธร จ.สงขลา แล้ว โดยจะเข้ามอบตัวในช่วงเที่ยงของวันนี้ หลังจากที่เมื่อคืนนี้ได้หลบหนีไปกบดานอยู่ที่บ้านญาติและประสานญาติติดต่อขอเข้ามอบตัว

เพื่อนบ้านปืนดุรัว 6 นัด ดับจ่าสิบเอก แค้นตูบสุดรักถูกวางยาเบื่อ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุอีกครั้งซึ่งเป็นคอกเลี้ยงไก่ชน ที่จ่าสิบเอกเรวัต มาเช่าที่ของชาวบ้านเลี้ยงไก่ชนอยู่ ซึ่งตั้งอยู่ในสวนยางพาราหลังบ้านของนายประมุข ผู้ต้องหา โดยพบกับ นางสีนีนาฏ ศรีไชย เจ้าของบ้านและเจ้าของที่ ซึ่งจ่าสิบเอกเรวัต มาเช่าที่เลี้ยงไก่ พร้อมเล่าว่า ขณะเกิดเหตุ นายประมุข ได้เดินเข้ามาจ่อยิง จ่าสิบเอกเรวัต ที่กำลังนั่งดื่มกินอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อน หลังบ้านตน และยังวิ่งออกมาทางหน้าบ้านตน ใช้ปืนจ่อส่องมาที่ตนขู่ว่ายังมีมึงอีกคน ซึ่งหากตอนนั้นตนอยู่หลังบ้านก็น่าจะถูกยิงเช่นกัน เพราะนายประมุข คิดว่าร่วมกับจ่าสิบเอกเรวัต วางยาเบื่อสุนัข นอกจากนี้นายประมุข เคยยิงปืนขู่ 4 นัด และจะเข้ามาตบตนแล้วครั้งหนึ่ง

นางสินีนาฏ เล่าอีกว่า จ่าสิบเอกเรวัต ซึ่งมาเช่าที่ของตนเลี้ยงไก่ชนมาเป็นปีแล้ว นิสัยดีมากให้คำปรึกษาทุกเรื่องจนชาวบ้านเรียกว่าอาจารย์ ส่วนนายประมุข แม้จะเป็นเพื่อนบ้านกัน แต่ก็ไม่ได้สุงสิงอะไรกัน ส่วนสาเหตุก็มาจากเรื่องที่ผู้ตายมีอาชีพเลี้ยงไก่ชน และไก่ชนขันส่งเสียงดัง ทำให้ผู้ก่อเหตุนอนไม่หลับ อีกทั้งเรื่องสุนัขผู้ก่อเหตุโดนวางยาตาย จึงเข้าใจว่าผู้ตายกับตนเป็นผู้วางยาสุนัข ที่ผ่านมาก็เคยมีการแจ้งความกันมาแล้วในเรื่องที่ทะเลาะวิวาทกันมาก่อนหน้านี้.