เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ชี้แจงการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุนนุมที่บริเวณหน้ากระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา ว่าสืบเนื่องจากมีการชุมนุมนำโดยนายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ ไบรท์ ชินวัตร และนายธนเดช ศรีสงคราม หรือ ม่อน อาชีวะ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาชุมนุมบริเวณหน้ากระทรวงสาธารณสุข เวลาประมาณ 13.41 น. จากนั้น พ.ต.อ.วนัสชัย ยิ่งยงสมสวัสดิ์ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี อ่านประกาศเกี่ยวกับการชุมนุม รวมถึงข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และขอให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมเนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ต่อมาเวลาประมาณ 17.19 น. กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามฝ่าแนวกั้น และใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้วยการกระโดดถีบ และผลักดันเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ได้มีการใช้กำลังเพื่อตอบโต้กลุ่มผู้ชุมนุมแต่อย่างใด จากเหตุการณ์นี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ 4 ราย

ม็อบทวงคืนวัคซีนปะทะตำรวจหน้า สธ. ผู้ชุมนุม-ตำรวจ เจ็บฝั่งละ 3

รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย และแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน ทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใด เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดินฯ, ความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป และกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ, ความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และความผิดฐานทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ฯ และในวันนี้(17 ก.ค.) พนักงานสอบสวนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายไปฝากขังต่อศาลจังหวัดนนทบุรี โดยคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาที่ได้หลบหนีไปนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและพิสูจน์ทราบผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อขออนุมัติหมายจับต่อไป อีกทั้งจะดำเนินการพิสูจน์ทราบและดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทุกรายต่อไป

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการประกาศเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมแล้วว่าการชุมนุมดังกล่าวนี้เป็นการกระทำผิดที่กฎหมาย และขอให้ยุติการชุมนุม แต่ผู้ชุมนุมไม่ให้ความร่วมมือ จนเกิดเป็นเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น จึงขอเตือนผู้ที่กระทำความผิดและผู้ชุมนุมให้หยุดการกระทำดังกล่าวเสีย เพราะนอกจากการกระทำของท่านจะเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แล้ว ยังทำให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรง เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพิสูจน์ทราบและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดรวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทุกรายอย่างถึงสุด อีกทั้งขณะนี้หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง ได้มีประกาศ เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ฉบับที่ 6) ลง 16 ก.ค. 64 และ โดยเฉพาะการกระทำความผิดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร, ปริมณฑล และ 4 จังหวัดในภาคใต้ ที่ถูกประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ก็จะมีโทษเพิ่มเติมอีก ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 27) ซึ่งห้ามไม่ให้มีการชุมนุมหรือจัดกิจกรรมรวมตัวเกินกว่า 5 คนหากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง.