วันที่ 17 ก.ค. แหล่งข่าวระดับสูงจากสภากาชาดไทย เผยว่า สภากาชาดไทยขอยืนยันว่าไม่ได้แย่งวัคซีนโมเดอร์นาจากหน่วยงานใดทั้งสิ้น หลังมีการให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้ว่าสภากาชาดไทย ได้ไปขอซื้อวัคซีนโมเดอร์นาจากองค์การเภสัชกรรม ที่สั่งซื้อไว้ 5 ล้านโด๊ส แต่ทางสภากาชาดไทย ได้ขอซื้อกันไว้ 1 ล้านโด๊ส โดยจะฉีดให้ฟรีกับคนทั่วไปที่ไม่ได้ฉีด และคนที่อยู่ในสถานะเปราะบาง ติดเตียงด้อยโอกาส จนมีคนโจมตีว่าการกระทำแบบนี้เป็นการไปหักคอนายหน้าที่ไปซื้อมา อย่างไรก็ดีแหล่งข่าวระดับสูงในสภากาชาดไทย ยืนยันแจ้งข้อเท็จจริงว่า ทางสภากาชาดไทย ได้ติดต่อไปยังบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด ซึ่งมีสิทธิในการจัดจำหน่ายวัคซีนของโมเดอร์นาตั้งแต่ประเทศไทยยังไม่มีคำตอบว่าจะนำวัคซีนโมเดอร์นาเข้ามาเท่าไหร่ โดยทางสภากาชาดไทยได้จองวัคซีนไว้ 1 ลัานโด๊สในปีนี้ และจะทำการจองอีกหลายล้านโด๊สในปีหน้า

รุมถล่ม“เตช บุญนาค” หลังอ้างสภากาชาดดีลซื้อ“โมเดอร์นา” เอง

ทั้งนี้บริษัทจำหน่ายวัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นานั้น จะมีหลักการเหมือนกันคือขายต่อรัฐเท่านั้น แต่สภากาชาดไทยสามารถทำสัญญาซื้อขายวัคซีนกับโมเดอร์นาได้เลยไม่ผ่านองค์การเภสัชฯ และจะเป็นประเทศเดียวในโลกที่บริษัทจัดจำหน่ายขายวัคซีนโมเดอร์นาตรงให้กับองค์กรที่ไม่ใช่ของรัฐ เพราะมีการเจรจาส่งข้อมูลติดต่อกันเรื่อยมา โดยวัคซีนที่สั่งโดยตรงนั้นจะเริ่มในปี 65 และการสั่งจองนั้นมีจำกัด เพราะสภากาชาดไทยไม่ใช่รัฐบาล ดังนั้นจะเน้นผู้เปราะบางเป็นกลุ่มที่จะต้องฉีดวัคซีนเป็นกลุ่มแรก

กาชาดร่อนหนังสือถึงผวจ.77จว.ทำแผนฉีดโมเดอร์นา 5 กลุ่มเปราะบาง

โดยแหล่งข่าวของสภากาชาดไทย ยืนยันว่าที่ผ่านมาทางองค์การเภสัชฯ มีหนังสือสำรวจตลาดการจองจาก รพ.เอกชน ยอดจองในช่วงแรก ๆ มีไม่ถึง 4 ล้านโด๊ส ทางบริษัทซิลลิก ฟาร์มา จำกัดจึงอนุมัติให้สภากาชาดไทย จองวัคซีนโมเดอร์นา 1 ล้านโด๊ส และของ รพ.เอกชนอีก 4 ล้านโด๊ส แต่เมื่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ยอดการจองวัคซีนของ รพ.เอกชนเพิ่มสูงถึง 9-10 ล้านโด๊ส ทั้งนี้กระแสข่าวที่ออกไปนั้น อาจมีความคลาดเคลื่อนทำให้สภากาชาดไทยถูกโจมตีจากสังคม จึงจำเป็นต้องมีการประชุมเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงให้สังคมทราบอีกครั้งหนึ่ง

แหล่งข่าวคนเดิมยังแจ้งว่า การกระจายวัคซีนโมเดอร์นาของสภากาชาดไทยนั้น จะดำเนินการฉีดเองส่วนหนึ่ง อีกส่วนจะให้กับทางองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และอีกส่วนจะส่งให้ รพ.ของรัฐนำไปฉีดแก่บุคลากรการแพทย์ โดยในส่วนที่จัดสรรให้กับ อบจ.นั้น ทางสภากาชาดไทยระบุว่ากลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับวัคซีนนั้น จะต้องเป็นกลุ่มผู้สูงวัย เป็นบุคลากรการแพทย์และผู้เปราะบาง โดยทาง อบจ.แต่ละแห่งจะต้องเขียนแผนการฉีดวัคซีนเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเซ็นกำกับรับรองส่งมาให้สภากาชาดไทยพิจารณาจัดสรรโควตาอีกครั้งหนึ่ง

สำหรับค่าวัคซีนที่ อบจ.ต้องจ่ายให้กับสภากาชาดไทยนั้น ก็จะนำไปเข้าส่วนต่างบัญชี “กองทุนสภากาชาดไทยเพื่อจัดซื้อวัคซีนและยาโควิดสำหรับประชาชน” เพื่อไปจองวัคซีน mRNA รุ่นใหม่ในปีหน้าที่จะสั่งเข้ามา 5 ล้านโด๊ส ซึ่งจะนำไปฉีดให้กับประชาชนฟรี ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะจัดจำหน่ายโด๊สละ 1,100 บาท หรือ1,300 บาท ต้องรอปรึกษาหารือแจ้งเป็นทางการอีกครั้ง และจะมีการแถลงข่าวรายละเอียดทั้งหมดอย่างเป็นทางการในวันพุธที่ 21 ก.ค.นี้อีกครั้ง