กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก แรงงานเพื่อสังคม โพสต์ข้อความเล่าเรื่องราวของ รปภ. รายหนึ่งที่เขียนใบลาออกจากบริษัทแห่งหนึ่ง แล้วถูกทางบริษัทนัดหมายให้มารับเงินค่าจ้างค้างจ่ายงวดสุดท้าย แต่ปรากฏว่าเมื่อเข้าไปรับเงินกลับถูกกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้ายร่างกายบาดเจ็บร่างกายฟกช้ำ ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น

สับยับ! เพจดังแฉบริษัทสุดโหดแค่รปภ.ขอลาออก เจอปิดห้องเชือด ไม้ฟาดยับ-หักเงินค้างเรียบ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ สน.หัวหมาก นายอนันตชัย ปิยะธีรวัฒน์​ อายุ 32 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัย และพวกรวม 4 คน เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก หลังแจ้งความถูกชายฉกรรจ์ในบริษัทรักษาความปลอดภัย ย่านรามคำแหงซอย4 รุมทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา โดย นายอนันตชัย เปิดเผยว่าวันเกิดเหตุตนกับพวกรวม 4 คน จะไปรับเงินเดือนงวดสุดท้าย หลังตัดสินใจลาออก ซึ่งทางบริษัทมีการนัดให้เข้าไปรับเงินดังกล่าว โดยมี ร.ต.ท.เมธี (ไม่ทราบนามสกุล)​ ซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายกำลังพลของบริษัทมาต้อนรับ โดยให้พวกตนไปคอยที่ห้องประชุม

นายอนันตชัย กล่าวอีกว่า ระหว่างนั้นได้มีการให้ยกโต๊ะเก้าอี้ออกเพื่อจัดห้องให้มีพื้นที่โล่ง จากนั้นมีชายฉกรรจ์ 6-7 คน แต่งตัวรัดกุม สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้าพร้อมอาวุธครบมือ เข้ามายึดโทรศัพท์ของทุกคนไปวางไว้ไกลๆตัว ก่อนจะรุมทำร้ายทั้งร่างกาย ทั้งกระทืบ ตบต่อย ใช้ดิ้ว ทุบตีตามร่างกาย โดยที่แต่ละคนไม่ได้ต่อสู้ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย จึงยอมให้กลุ่มคนดังกล่าวทำร้ายนานกว่า 5 นาที โดยขณะที่ลงมือ ก็มีพนักงานคนอื่น ๆ ของบริษัทเห็นเหตุการณ์ แต่ไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือ

นายอนันตชัย กล่าวว่าหลังทุบตีเสร็จทั้งหมดก็เดินออกจากห้องไป ส่วนพวกตนทั้ง 4 คนก็ไปนั่งรอรับเงินเดือน ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ขณะนั้นเอง ร.ต.ท.เมธี ได้เรียกหัวหน้ารปภ.เข้าไปในห้องแล้วอัดเสียง ถามสาเหตุถึงการลาออก และถ่ายรูปบาดแผลของแต่ละคนไปด้วย แต่ไม่ถามถึงเหตุการณ์ที่ถูกทำร้ายเลย คาดว่า สาเหตุที่เกิดขึ้น น่าจะเป็นเพราะกลุ่มตนลาออกจากบริษัทจึงสร้างความไม่พอใจให้กับเพื่อนร่วมงาน สำหรับอาการบาดเจ็บของตนมีรอยถลอกที่ใบหน้าข้างขวา มีรอบฟกช้ำตามแผ่นหลังประมาณ 4-5 จุดใหญ่ ตอนนี้ก็ยังมีอาการปวดอยู่ ได้ทานยาตามที่แพทย์จ่ายให้แล้ว

ขณะที่ น.ส.เอ (นามสมมุติ) กล่าวว่า ตนเป็นลูกสาวของรปภ. พ่อเล่าให้ฟังว่าโดนชายฉกรรจ์ทั้ง 6-7 คนก็รุมทำร้ายร่างกายอย่างเดียว จนพ่อต้องยกมือไหว้ เขาถึงจะยอมหยุด จากนั้นก็เห็นว่า ชายฉกรรจ์ได้เดินเข้าไปรับซองเงินจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ที่คนในบริษัทเรียกว่าผู้การ ทราบมาว่าน่าจะมียศตำรวจ ซึ่งพฤติกรรมของชายฉกรรจ์ทั้งหมดเหมือนกับคนที่ตั้งใจวางแผนล่อมาให้ทำร้ายร่างกายมาก