เมื่อวันที่ 21 ม.ค. วานนี้ (20 ม.ค.) ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า กรณีที่มีเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าติดตามบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ ต.ละหาร อ.สายบุรี จ.ปัตตานี หลังจากในช่วงเช้าตรู่วันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้เข้ามาหลบซ่อนภายในพื้นที่บ้านเขาดิน อยู่บ้านเลขที่ 41/1 หมู่ 2 ต.ละหาร อ.สายบุรี จ.ยะลา เพื่อเตรียมก่อเหตุร้ายในพื้นที่ดังกล่าว ในขั้นต้นเจ้าหน้าที่พบมีคนร้ายหลบซ่อนตัวในบ้านหลังดังกล่าว จำนวน 2 คน จึงได้ทำการปิดล้อมและเกลี้ยกล่อมให้ออกมามอบตัว

โดยเชิญหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น เข้าร่วมเจรา นานกว่า 4 ชั่วโมง แต่ไม่เป็นผล คนร้ายกลับวิ่งฝ่าออกมาจากบ้าน และใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เป็นระยะ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องยิงตอบโต้ จากการปฏิบัติทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1 นาย คือ ร.อ.สุริยะ บินญาวัง ถูกกระสุนปืนยิงทะลุสะโพกด้านซ้าย นำส่งโรงพยาบาลสายบุรี ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ปัจจุบันอาการปลอดภัย ส่วนคนร้ายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ราย มีหมายจับรวมกัน 14 หมาย ประกอบด้วย 1. นายรอซาลี เจะเลาะ อายุ 40 ปี มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 11 หมาย 2. นายมารวาน มีทอ อายุ 27 ปี มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 3 หมาย

ปะทะเดือด! วิสามัญดับโจรใต้ 2 ศพ เหิมยิงสู้หลังเจรจาเกลี้ยกล่อมนานกว่า3ชั่วโมง

นอกจากนี้ยังตรวจยึดอาวุธปืน AK 47 และ AK 102 ของคนร้าย รวม 2 กระบอก ซึ่งจะได้นำไปตรวจพิสูจน์หาที่มาและประวัติการก่อเหตุต่อไป จากประวัติและพฤติกรรมของคนร้ายที่เสียชีวิตทั้ง 2 ราย พบว่าเป็นผู้ก่อความไม่สงบระดับสั่งการและระดับปฏิบัติการ เคยก่อเหตุความรุนแรงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2549 – ปัจจุบัน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าและเผา 3 พ่อลูกตระกูลกิตติประภานันท์ เสียชีวิต 3 ราย เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2564 ที่ผ่านมา โดยในการปฏิบัติ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กำชับให้หน่วยใช้การเจรจาเป็นหลัก และทุกขั้นตอนต้องปฏิบัติตามหลักกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด แต่กลุ่มคนร้ายกลับต่อสู้ เป็นผลให้ต้องยิงตอบโต้จนคนร้ายเสียชีวิตดังกล่าว

ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จึงขอขอบคุณมายังพี่น้องประชาชนที่ช่วยแจ้งเบาะแสผู้ก่อเหตุรุนแรง ทางหมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 ที่หมายเลข 061-1732999 และนอกจากนี้ยังขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชน อย่าได้ให้การสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิด ทั้งการให้ที่พักพิง เก็บซ่อนอาวุธ หรือ จัดหาเสบียง เพราะจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.