เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ความคืบหน้ากรณีมีข่าวเผยแพร่ทางสื่อโซเชียล กรณีมีชายปริศนาอ้างว่าเป็นนายทุนค้ายาเสพติด นำหลักฐานภาพถ่ายออกมาแฉขณะเครือข่าย 2 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน ถูกจับกุมพร้อมของกลางยาบ้าบรรจุในกระสอบปุ๋ย รวมยาบ้าประมาณ 2 แสนเม็ด โดยออกมาร้องเรียนผ่านเพจ อย่าหาทำ เพื่อแฉพฤติกรรมตำรวจชุดสืบสวนนครพนมที่มีการรีดไถเงิน กับยักยอกยาบ้าของกลางหายปริศนา พร้อมมีคลิปเสียงชายปริศนาอ้างเป็นนายทุน ระบุว่า ลูกน้องถูกจับเมื่อประมาณวันที่ 7-8 ม.ค.65 ในพื้นที่บ้านโพนจาน ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม

รวมมีผู้ต้องหา 3 คน ชาย 2 ราย หญิง 1 คน โดยมีชายอ้างเป็นตำรวจชุดสืบนครพนมเป็นคนจับกุม พร้อมเสนอเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการปล่อยตัวผู้ต้องหาขนยาบ้า เป็นเงิน 6 แสนบาท แต่มีการต่อรองเหลือ 3 แสนบาท เพื่อปล่อยตัวผู้ต้องหาชาย 1 ราย หญิง 1 ราย ส่วนชายอีก 1 ราย เสนอเคลียร์เงิน 4 แสนบาท ต่อรองเหลือ 2.5 แสนบาท ซึ่งทีมงานจ่ายเงินไปเรียบร้อย โดยต้องการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเอาผิดกับตำรวจชุดสืบสวนนครพนม ตามคำกล่าวอ้างเนื่องจากยาบ้าของกลางที่ยึดหายปริศนา

ด้าน พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยว่า หลังทราบข่าวตนไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นในพื้นที่ สภ.โพนสวรรค์ ตามคำกล่าวอ้าง ว่ามีการจับกุมยาบ้าดังกล่าวในท้องที่ บ้านโพนจาน ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม พบว่าไม่มีข้อมูลการจับกุม และไม่มีการนำของกลางยาบ้าส่งดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน แต่มีการตรวจสอบจากภาพหลักฐานที่มีคนส่งไปร้องเรียนผ่านสื่อ ตรวจสอบแล้วไม่ใช่ภาพเหตุการณ์เก่า ยืนยันว่ามีการจับกุมจริง และสันนิษฐานว่ามีการยักยอกของกลางยาบ้าหายไปจริง ส่วนรายละเอียดการเรียกรับเงิน เพื่อไถ่ตัวขบวนการค้ายาบ้า ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้

โดยได้ตั้งทีมสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว คาดว่าจะรู้ผลชัดเจนอีกไม่นาน สำหรับนายตำรวจที่คาดว่าจะมีส่วนพัวพันเกี่ยวข้อง เบื้องต้นได้มีคำสั่งไปช่วยราชการที่ตำรวจภูธรภาค 4 แล้ว 1 นาย เพื่อออกจากพื้นที่ ให้ทีมสอบสวนข้อเท็จจริงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนมั่นใจ ถึงแม้ตำรวจจะทำผิด จะไม่มีการปกป้อง หากพยานหลักฐานครบ ดำเนินคดีทางอาญา รวมถึงทางวินัย ไล่ออกทันที ซึ่งขอเวลาตรวจสอบ เพราะยังไม่มีหลักฐานครบในการกล่าวหาเอาผิดกับตำรวจชุดสืบสวนดังกล่าว

“สำคัญที่สุดจากกการตรวจสอบขบวนการค้ายาบ้า ตามภาพที่มีการนำมาร้องเรียน ทางตำรวจตรวจสอบยืนยันรู้ตัวแล้ว แต่ยังหาตัวไม่พบ ซึ่งจะเป็นพยานบุคคลที่เป็นกุญแจสำคัญในการคลี่คลายปริศนาของยาบ้าหายไปครั้งนี้ และเชื่อมโยงเอาผิดตำรวจนอกรีตได้แน่นอน โดยได้มอบหมายให้ทีมทำงานติดตามดูแลคุ้มครองพยานเต็มที่ ขอให้มั่นใจหากหลักฐานชัดเจน ตำรวจนอกรีตเราจะเอาผิดให้ถึงที่สุด และจะไม่ยอมให้นายใดมาสร้างความเสื่อมเสียให้กับวงการตำรวจ ถือเป็นนโยบายสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยิ่งเรื่องยาเสพติดจะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด” ผบก.ภ.จว.นครพนม กล่าว