เรียกได้ว่ากำลังกลายเป็นเรื่องราวที่ชาวเน็ตบนโลกออนไลน์ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ ภายหลังแฟนเพจเฟซบุ๊ก ซีทรู ได้ออกมาเผยเรื่องราวถึง “ดาราหอยทาก” ท่านหนึ่ง ที่ชอบตระเวนทำบุญไปทั่ว ไปทำแต่ละทีก็ทุ่มเงินมากมาย ตรงไหนว่าดี ตรงไหนว่าดัง ตรงไหนว่าเด็ด ดารารายนี้ก็จะไปกราบงามๆ ซึ่งล่าสุดได้แหกกฎขึ้น “ถ้ำแบบวีไอพี” แถมจัดเต็มเครื่องเสียงดนตรีกระหึ่มราวกับเปิดคอนเสิร์ตให้เทวดา โดยได้ระบุข้อความว่า

“กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเลยทีเดียวสำหรับ “ดาราหอยทาก” ท่านหนึ่ง ที่ชอบตระเวนทำบุญไปทั่ว ไปทำแต่ละทีก็ทุ่มเงินมากมาย ตรงไหนว่าดี ตรงไหนว่าดัง ตรงไหนว่าเด็ด ดาราท่านนี้ก็จะไปกราบงามๆ

ล่าสุดดาราหอยทากก็นำชาวคณะไปปีนถ้ำเพื่อความปัง ทำเอาชาวบ้านสวดกันยับถึงความเป็นวีไอพี ใครไปที่ถ้ำในวันนั้นรู้ดี เพราะเริ่มตั้งแต่ตีนเขาทำพิธีบวงสรวงใหญ่โต จัดเต็มเครื่องเสียงดนตรีกระหึ่มราวกับเปิดคอนเสิร์ตให้เทวดา จากนั้นก็นำพาคณะบุญขึ้นถ้ำ โดยมีไกด์นำพาไปมูเตลู

เมื่อไปถึงบริเวณจุดต่างๆ ดาราหอยทากและคณะต่างก็ตั้งใจอธิษฐานจิตแบบทีละคนๆ ซึ่งก็ไม่ได้ผิดปกติอะไร เพราะโดยปกติก็จะให้อธิษฐานกันทีละคนอยู่แล้ว แต่คณะดาราหอยทากกลับใช้เวลานานมาก ไม่เห็นใจคณะอื่นๆ ที่ต่อคิวอยู่ ทั้งที่การแบ่งปันเอื้อเฟื้อแก่ผู้อื่นเป็นการแสดงถึงขิตใจและมารยาทที่ดีงาม ผลของการเอิงเอยของดาราแอนด์เดอะแก๊ง ทำให้คณะอื่นๆ ต้องรอคิวกันเป็นชั่วโมงๆ

เท่านั้นไม่พอดาราหอยทากและคณะยังได้นำสิ่งของไปไหว้ ซึ่งเป็นข้อห้าม สร้างภาระให้กับเจ้าหน้าที่จะต้องเก็บและถ้าของเหล่านั้นบังเอิญหล่นปลิวกระจายไป ก็จะเป็นการสร้างมลภาวะให้กับสิ่งแวดล้อมและสัตว์ป่าไปอีก

หนักสุดเห็นจะเป็นไฮไลต์สำคัญที่สุดของการมูเตลูครั้งนี้ คือการนำเอากระเป๋าเงินสิ่งของต่างๆ ไปอธิษฐานจิต ซึ่งโดยปกติก็จะมีการต่อคิวอธิษฐานทีละคนเป็นหมู่คณะ แต่มีกฎคือห้ามนำเอาสิ่งของไปวางไว้บนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่คณะดาราหอยทากก็แหกกฎเอากระเป๋าเงิน มือถือ เงิน ไปวางไว้ในสิ่งต้องห้าม แม้ไกด์จะห้ามก็ไม่ฟัง หันมาเอ็ดไกด์ว่า จะรีบทำรีบเสร็จอย่าทำให้เสียเวลา ทำเอาไกด์จ๋อยไปเลยทีเดียว

ด้านคณะอื่นๆ ที่อดทนมานาน เริ่มทนไม่ไหว เริ่มส่งเสียงโวยวายกัน ดาราแอนด์เดอะแก๊งก็หันขวับไปบอก ขอให้เงียบกำลังจะทำพิธี! ทุกคนอดทนจนถึงที่สุดเพราะมาทำบุญมาขอพร

ผลของการขอพรอันยาวนาน 8 หน้ากระดาษของดาราหอยทากและคณะ ส่งผลให้คณะอื่นๆ ที่ต่อคิว ไม่สามารถไปขอพรอธิษฐานจิตทีละคนเหมือนที่คณะหอยทากทำได้ เพราะเวลาจำกัด ท้องฟ้าเริ่มมืดค่ำแล้ว และยังมีอีกหลายคณะหลายคิวที่ต่อคิวยาวเหยียด

ส่งผลให้ผู้ที่ขอพรต่อจากคณะหอยทาก ต้องขอพรด้านนอกเท่านั้นและรวมกระเป๋าเงินมาอธิษฐานร่วมจิต แถมต้องเดินลงจากถ้ำท่ามกลางความมืด ต้องควักหาไฟฉายมาส่องตามทาง ขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านล่างก็ต้องขึ้นมาตามเพราะมืดค่ำแล้ว เดือดร้อนชาวบ้านไปทั่ว ส่วนคณะหอยทากวีไอพีลงถ้ำไปดินเนอร์แล้วจ้า อ้อได้ข่าวว่าคณะนี้ทริปหนัก ให้ค่าไกด์หลักหมื่นเชียว

เรื่องนี้เท็จจริงประการใด ผู้ที่ไปถ้ำวันนั้นคงรู้ดี และเข้าใจดีถึงที่มาของคำว่า “ดาราหอยทาก” ทุกคนเกิดมาก็อยากมีอยากได้อยากรวยกันทั้งนั้นแหละ แต่ควรให้มันพอเหมาะพอดี สองมือพนม ปากพร่ำขอพร แต่ไม่มีน้ำใจให้กับผู้อื่น แถมยังแหกกฎแบบนี้ บอกเลยเทวดาไม่โง่นะจ๊ะ”..