เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ Press Center ชั้น 2 อาคารเอ ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ นายอิทธิพร แก้วทิพย์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ และรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และ นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานต่างประเทศ ร่วมกันแถลงผลงานของสำนักงานอัยการสูงสุด รอบปี 2564 และทิศทางการดำเนินงานเชิงรุก ในปี 2565 ตามที่นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อัยการสูงสุด คนที่ 16 ได้แถลงนโยบายการบริหารงานไว้

ชี้คดี’บอส’เสพโคเคน ถ้าหลักฐานชัดเจนยังแจ้งข้อหาได้

นายอิทธิพร กล่าวถึงคดีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตว่า ที่ผ่านมาอัยการสั่งฟ้องนายวรยุทธ ไว้ 2 ข้อหา คือ ข้อหาแรกขับรถชนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายจะหมดอายุความในปี 2570 กับ ข้อหาเสพโคเคน ที่จะหมดอายุความในวันที่ 3 ก.ย.นี้ แต่ขณะนี้พนักงานสอบสวนยังไม่ได้ส่งตัวผู้ต้องหามาให้ดำเนินคดี ทราบว่าตัวผู้ต้องหายังอยู่ต่างประเทศ

แฉแหลกพบโคเคนในเลือด’บอส’ แต่ไม่ปรากฏในสำนวน

นายประยุทธ กล่าวว่า การสืบหาถิ่นที่อยู่ของผู้ต้องหาในต่างประเทศ ไม่ใช่ภารกิจของอัยการ ยอมรับว่ามีความกังวล เพราะข้อหาเสพโคเคน ใกล้จะหมดอายุความในวันที่ 3 ก.ย.นี้ ตราบใดที่ยังไม่ได้ตัวผู้ต้องหาก็จะไม่สามารถยื่นฟ้องนายวรยุทธต่อศาลได้

“อาจไม่ได้ตัวมาภายในวันที่ 3 ก.ย. แม้ได้ตัวมาหลังจากนั้นเราก็ไม่สามารถฟ้องข้อหาเสพโคเคนได้เพราะขาดอายุความ เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องคงไม่นิ่งนอนใจในการติดตามตัวและคงทราบว่าใกล้จะหมดอายุความ” นายประยุทธ ระบุและกล่าวอีกว่า ทราบจากสื่อมวลชนว่า นายวรยุทธ พักอาศัยอยู่ที่ประเทศอังกฤษบ้าง ประเทศออสเตรียบ้าง แต่สิ่งที่ตำรวจส่งมาให้อัยการคือ สำเนาหมายจับของศาล ยังไม่มีการส่งตัวมาให้ ซึ่งถ้าทราบที่อยู่ของผู้ต้องหาในต่างประเทศ อัยการมีความพร้อมที่จะดำเนินการต่างๆ เพื่อขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนต่อไปได้