เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ซึ่งประชุมกันเมื่อวันที่ 28 ม.ค. ได้มีคำแนะนำการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพิ่มเติมมีรายละเอียดดังนี้

1.เพิ่มการฉีดสูตรไขว้ ตามที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ คือ วัคซีน mRNA เป็นเข็มที่ 1 และวัคซีนไวรัลเวกเตอร์ เป็นเข็มที่ 2 ระยะห่าง 4 สัปดาห์

2.ผู้มีประวัติติดเชื้อโควิดมาก่อน สามารถฉีดวัคซีนโดยใช้หลักการเดียวกับผู้ยังไม่เคยติดเชื้อมาก่อน ซึ่งคำแนะนำให้ฉีดวัคซีนหลังการติดเชื้อ 3 เดือนล่าสุด แนะนำให้ลดระยะเวลาเหลือ 1 เดือน

3.ผู้ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา 2 เข็ม เดิมแนะนำให้ฉีดเข็ม 3 เป็นชนิด mRNA คำแนะนำใหม่ให้ฉีดเข็ม 3 ด้วยแอสตราเซเนกาตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปหลังฉีดเข็มที่ 2 ซึ่งทางอังกฤษส่งข้อมูลการฉีดเพิ่มเติมพบว่ากระตุ้นภูมิได้ดี

4.เด็กอายุ 12-17 ปี ที่ฉีดซิโนฟาร์ม แล้ว 2 เข็มครบ 4 สัปดาห์ สามารถฉีดวัคซีนกระตุ้นด้วยวัคซีนไฟเซอร์ ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ยังไม่ได้แนะนำให้ฉีดกระตุ้นด้วยซิโนฟาร์มเนื่องจากยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนรับรองโดย อย.

5.ที่ประชุมอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค สร้างเสริมภูมิคุ้มกัน เห็นชอบในหลักการให้ฉีดวัคซีนซิโนแวค ในเด็กอายุ 3-17 ปี เพราะขณะนี้มีการส่งข้อมูลความปลอดภัยและประสิทธิผลให้ อย.พิจารณาแล้ว หาก อย.อนุมัติก็ฉีดได้เลย.