เมื่อวันที่ 4 ก.พ. นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” ระบุว่า

“ไวรัสโควิด-19 โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 อาจจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมทำให้การแพร่ระบาดใหญ่ไปทั่วโลก (pandemic) สิ้นสุดลงเร็วขึ้น ขณะนี้มีรายงานสายพันธุ์ย่อย BA.2 พบใน 57 ประเทศ ในบางประเทศสายพันธุ์ย่อย BA.2 ขึ้นแซงสายพันธุ์เดิม BA.1 แล้ว เพราะว่าสายพันธุ์ย่อย BA.2 ติดกันง่ายและแพร่เร็วกว่าสายพันธุ์เดิม 50% 

องค์การอนามัยโลกเพิ่งให้ความเห็นว่า สายพันธุ์ BA.2 ไม่ได้รุนแรงมากกว่าสายพันธุ์เดิม (ดูรูป) คนที่ได้รับวัคซีนครบโด๊สและได้เข็มกระตุ้นสามารถป้องกันไม่ให้ป่วยหนัก และเสียชีวิตได้ทั้งสายพันธุ์ BA.1 และ BA.2

ผมเชื่อว่าอีกไม่นานไวรัสโควิด-19 โอมิครอนสายพันธุ์ BA.2 จะแทนที่สายพันธุ์เดิมทุกประเทศ และการติดเชื้อคนส่วนใหญ่ในโลกจะเร็วขึ้นกว่าเดิม เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ทำให้การแพร่ระบาดหยุดลงเร็วยิ่งขึ้น เปลี่ยนเป็นโรคประจำถิ่น (endemic) ภายในปีนี้

ในอดีตการเปลี่ยนแปลงจากโรคระบาดใหญ่ (pandemic) เป็นโรคประจำถิ่น (endemic) เช่นไข้หวัดใหญ่ ขึ้นอยู่กับเชื้อโรคมากกว่าขึ้นกับคน เชื้อโรคมีความเมตตา กรุณาปรานี (we are at the mercy of this virus) กลายพันธุ์ ทำให้ติดกันง่ายขึ้น ลดความรุนแรงลง คนที่ติดเชื้อมีภูมิคุ้มกันหมู่ตามธรรมชาติ โรคจึงหยุดการแพร่ระบาดได้ คนทำอย่างไรก็ไม่สามารถหยุดยั้งการติดเชื้อได้ แค่ชะลอเวลาการติดเชื้อเท่านั้น

สำหรับคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว คนที่ฉีดวัคซีนยังไม่ครบโด๊ส และคนที่ถึงเวลาฉีดเข็มกระตุ้น รีบไปรับการฉีดวัคซีน ประเทศไทยในขณะนี้มีวัคซีนเหลือพอ รีบฉีดก่อนที่จะติดเชื้อสายพันธุ์ BA.2 ตามธรรมชาติ เราคงหนีเชื้อตัวนี้ไม่พ้น เมื่อติดเชื้ออาการจะเบาลง เหมือนเป็นหวัดธรรมดา”..

ขอบคุณภาพประกอบ : หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC