ศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 4 หรือรอบ 32 ทีมสุดท้าย เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา เชลซี ยักษ์ใหญ่จากศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งไม่มี โธมัส ทูเคิล กุนซือของทีมลงคุมทัพข้างสนาม เนื่องจากมีผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวกนั้น เปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ พลีมัธ ทีมจากลีก วัน โดยเกมนี้ ทีมเยือนช็อกแฟนเจ้าถิ่นขึ้นนำก่อน 1-0 จาก แม็คคอเลย์ กิลเลสพี ตั้งแต่นาทีที่ 8 แต่ “สิงห์สำอาง” มาตามตีเสมอเป็น 1-1 ได้ในนาทีที่ 41 จาก เซซาร์ อัซปิลิกวยตา จบครึ่งแรกเสมอ 1-1

เข้าสู่ครึ่งหลัง เชลซี บุกหนัก แต่สุดท้ายไม่มีประตูเพิ่ม จบ 90 นาทีเสมอ 1-1 ต้องดวลกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ และเป็น “สิงห์สำอาง” ที่มาได้ประตูแซงนำ 2-1 จาก มาร์กอส อลอนโซ ในนาทีที่ 105 ถึงนาทีที่ 117 ทีมเยือนมีโอกาสตีเสมอเมื่อได้จุดโทษ แต่ ไรอัน ฮาร์ดี ยิงไปติดเซฟ เกปา อาร์ริซาบาลากา นายทวารเจ้าถิ่น เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เชลซี เฉือนชนะหืดจับ 2-1 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายอย่างหวุดหวิด

ผลอีกคู่ คิดเดอร์มินสเตอร์ เสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 (ต่อเวลาพิเศษ เวสต์แฮม ชนะ 2-1)

เครดิตภาพ : REUTERS