การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ฤดูหนาว 2022 ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันอังคารที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา หนึ่งในไฮไลต์คือการแข่งขันฟรีสกี บิ๊ก แอร์ ประเภทหญิง ผลปรากฏว่า ไอลีน กู นางแบบสาวลูกครึ่งจีน-สหรัฐ ซึ่งเป็นนางแบบสาว วิคตอเรีย ซีเครต แบรนด์ชุดชั้นในระดับโลก และเลือกลงแข่งให้กับชาติเจ้าภาพ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแม่นั้น คว้าเหรียญทองไปครองได้อย่างยอดเยี่ยม หลังทำคะแนนรวม 188.25 คะแนน ส่วนอันดับสอง เทสส์ เลอดูซ์ เจ้าของแชมป์โลกคนปัจจุบันจากฝรั่งเศส ทำไป 187.50 คะแนน ได้เหรียญเงิน ส่วนเหรียญทองแดงเป็นของ มาธิลด์ เกรเมาด์ จากสวิตเซอร์แลนด์ ทำไป 182.50 คะแนน
หลังจบการแข่งขัน กู วัย 18 ปี ซึ่งใช้ท่า 1620 ซึ่งเป็นท่ายากในรันสุดท้าย และทำได้ดีจนทำแต้มแซงตัวเต็งอย่าง เลอดูซ์ ที่พลาดในรันสุดท้าย เข้าป้ายคว้าเหรียญทองสำเร็จนั้น เผยว่า “ฉันไม่เคยใช้ท่า 1620 มาก่อนเลย และไม่ค่อยได้ซ้อมท่านี้เพื่อเตรียมใช้ในการแข่งขันเท่าไหร่ ฉันใช้เวลาไป 2 วัน ในการซ้อมท่าอื่น แต่ฉันก็ใช้เวลาหลายชั่วโมงในการวิเคราะห์ว่ามันจะคุ้มเสี่ยงหรือไม่ ปกติแล้วฉันจะวิเคราะห์การเล่นของตัวเองประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ก่อนนอนทุกวันอยู่แล้ว และตัวของ เทสส์ เอง เธอก็เป็นแรงผลักดันให้ฉันเลือกใช้ท่านี้ ดังนั้นแม้เธอจะเศร้าที่พลาดเหรียญทอง แต่เหรียญทองเหรียญนี้ก็มีส่วนหนึ่งเป็นของเธอด้วยเช่นกัน”
สำหรับ ไอลีน กู นั้น เธอมีพ่อเป็นอเมริกัน และมีแม่เป็นชาวจีน โดยตัวเธอเกิดที่นครซาน ฟรานซิสโก อย่างไรก็ตาม ในศึก “ปักกิ่งเกมส์” คราวนี้ เธอเลือกเล่นให้กับชาติบ้านเกิดของแม่ โดยก่อนหน้านี้เธอเคยได้ 2 เหรียญทองในการแข่งขันชิงแชมป์โลก และ 2 เหรียญทองในกีฬา วินเทอร์ เอ็กซ์ เกมส์ และนี่คือการแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ฤดูหนาวเป็นครั้งแรก โดยนอกจากเล่นสกีแล้ว เธอยังเป็นนางแบบให้กับ วิคตอเรีย ซีเครต แบรนด์ชุดชั้นในชื่อดัง รวมถึงแบรนด์ระดับโลกอย่าง หลุยส์ วิตตอง, ทิฟฟานี แอนด์ โค รวมถึง กุชชี มาแล้ว
ขณะเดียวกัน ในการแข่งขันรายการนี้ เผิง ฉ่วย นักเทนนิสสาวชาวจีน ซึ่งตกเป็นข่าวครึกโครมเรื่องการออกมาโพสต์ว่า เธอโดนบุคคลระดับสูงในรัฐบาลจีนล่วงละเมิดทางเพศ ก่อนจะหายตัวไปจนวงการเทนนิสโลกต่างแสดงความเป็นห่วงนั้น ได้มาปรากฏตัวชมการแข่งขันด้วย หลังจากเธอเพิ่งออกมายืนยันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า เธอไม่เคยกล่าวหาว่าใครล่วงละเมิดทางเพศเธอ ขณะที่โพสต์ต้นเรื่องที่ถูกลบไปนั้น เธอเป็นคนลบเอง ไม่ได้ถูกทางการจีนสั่งลบแต่อย่างใด
เครดิตภาพ : REUTERS
