สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ว่านายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด กล่าวถึงการชุมนุมประท้วงต่อต้านมาตรการควบคุมโควิด-19 โดยเฉพาะการบังคับฉีดวัคซีน ของกลุ่มคนขับรถบรรทุกขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน ซึ่งปักหลักอยู่ที่กรุงออตตาวามานานกว่า 1 สัปดาห์ ว่ารัฐบาลยึดมั่นตามหลักการด้านวิทยาศาสตร์ ดังนั้น การเรียกร้องลักษณะนี้ “ต้องยุติทันที” แต่ยังไม่ได้กล่าวอย่างชัดเจน ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ตำรวจสังเกตการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนขับรถบรรทุก ซึ่งต่อต้านการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในกรุงออตตาวา


ขณะที่นายโอมาห์ อัลกาบรา รมว.คมนาคมของแคนาดา ตำหนิการที่กลุ่มคนขับรถบรรทุกบางส่วนปิดกั้นการจราจรบนสะพานแอมบาสซาเดอร์ ซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรระหว่างประเทศ เชื่อมระหว่างรัฐออนแทรีโอ กับรัฐมิชิแกนของสหรัฐ ว่าจะยิ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของแคนาดา และห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศ ด้านหอการค้ารัฐออนแทรีโอและรัฐมิชิแกน พร้อมใจออกมาเรียกร้อง ให้กลุ่มผู้ประท้วงยุติการปิดกั้นการเจรจาโดยเร็วที่สุด


ส่วนนายดัก ฟอร์ด มุขมนตรีรัฐออนแทรีโอ กล่าวเสริมว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจำนวนมาก ของทั้งแคนาดาและสหรัฐ อาศัยสะพานแห่งนี้เป็นเส้นทางสัญจรเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่เช่นกัน การกระทำดังกล่าวมีแต่จะยิ่งสร้างความเสียหายให้ลุกลามเป็นวงกว้างมากขึ้นเท่านั้น

ผู้ประท้วงถือธงชาติแคนาดา ระหว่างร่วมกันปิดกั้นการเจรจา บนสะพานแอมบาสซาเดอร์ ซึ่งเชื่อมกับรัฐมิชิแกนของสหรัฐ


ทั้งนี้ เทศบาลกรุงออตตาวาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เมื่อต้นสัปดาห์นี้ เนื่องจากกลุ่มคนขับรถบรรทุกจากทั่วสารทิศ ซึ่งเข้ามาปักหลักในเมืองหลวง เพื่อจัด “กิจกรรมแห่งเสรีภาพ” มีจำนวนเพิ่มขึ้นจนมากกว่าตำรวจทั้งเมืองหลวงของแคนาดาแล้ว ทว่าการที่ภาครัฐยังคงไม่มีมาตรการที่ชัดเจนและจริงจังเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ สร้างความไม่พอใจให้กับชาวกรุงออตตาวามากขึ้นเช่นกัน.

เครดิตภาพ : REUTERS