เมื่อวันที่ 20 ก.ค. แพทย์ประจำบ้าน แพทย์ประจำบ้านต่อยอด และอาจารย์แพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ มหาวิทยาลัยมหิดล รวม 604 คน ร่วมลงชื่อในแถลงการณ์ แสดงจุดยืนและเรียกร้องให้มีการจัดหา และจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพสูง ใจความระบุว่า เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ของประเทศไทยในปัจจุบันทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมาก มีจํานวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขโดยรวม

แม้ว่าในขณะนี้บุคลากรทางการแพทย์ส่วนใหญ่จะได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว แต่ยังพบการระบาดในหมู่บุคลากรทางการแพทย์ จึงเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าวัคซีนชนิดเชื้อตายที่รัฐบาลได้จัดหามาให้ใช้เป็นวัคซีนหลักนั้น ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการยับยั้งการระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ทําให้ต้องสูญเสียทรัพยากรบุคคลในการทํางาน ภาระงานของบุคลากรที่เหลืออยู่เพิ่มมากขึ้นจนเกินศักยภาพ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดูแลรักษาผู้ป่วย นับเป็นการดําเนินนโยบายบริหารวัคซีนที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรง

นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา การสื่อสารของรัฐบาลในการให้ข้อมูลจัดหาและจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 นั้นเป็นไปด้วยความสับสนทําให้เกิดข้อสงสัยมากมายจากประชาชนทั้งในแง่ความถูกต้องทางวิชาการและความโปร่งใสของรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้อง ซํ้าการดําเนินการจัดหาวัคซีนยังเป็นไปอย่างล่าช้าและไม่เป็นไปตามแผนที่ได้ให้คําสัญญาเอาไว้กับประชาชน ทําให้ในปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพเพียงพอให้กับประชาชนทุกคน

แพทย์ประจําบ้าน แพทย์ประจําบ้านต่อยอด และอาจารย์แพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ ในฐานะบุคลากรทางการแพทย์ที่ทํางานรับมือกับวิกฤตการณ์โรคระบาดอุบัติใหม่ในครั้งนี้ จึงขอแสดงจุดยืนและเรียกร้องให้จัดหาและจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น mRNA vaccine, Protein subunit vaccine เป็นต้น อันมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่บ่งชี้ว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนทุกคน

ขอเรียกร้องให้รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องดําเนินการโดยเร็วที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน รวมถึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องเปิดเผยขั้นตอนการจัดหาและจัดสรรวัคซีนทั้งที่ผ่านมาและที่กําลังดําเนินการอยู่ เพื่อความโปร่งใสและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนว่าการดําเนินการทั้งหมดได้ทําอย่างสุจริตและไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนใด ๆ โดยแท้จริง.