เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อมด้วยนายปรัชญา อึ้งรังษี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 1 และทีมงานพรรคกล้า ได้เดินทางไปยังพิพิธบางลำพู เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อร่วมหารือและรับฟังความคิดเห็นกับคณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งนำโดยนายสิงหนาท แสงสีหนาท อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เชื่อมโยงอาเซียนด้านการออกแบบเมืองและสรรค์สร้าง รวมถึงประธานและตัวแทนชุมชนจาก 7 ชุมชนในเขตพระนคร เพื่อหาแนวทางพัฒนาพระนครให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้เชิงวัฒนธรรม
ทั้งนี้ นายกรณ์ กล่าวว่า พรรคกล้ามีนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเสน่ห์ของเมืองไทย ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตพระนครมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมหลายแห่ง หากได้รับการฟื้นฟูอนุรักษ์ของที่มีอยู่แล้วให้มีเรื่องราวของประวัติศาสตร์ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพื่อไม่ให้สูญหายไป ก็จะสามารถสร้างเศรษฐกิจในชุมชนได้ อย่างไรก็ตาม การพัฒนาจะไม่เกิดประโยชน์ หากประชาชนในท้องถิ่นไม่ได้อะไร จึงเป็นที่มาที่เรามารับฟังความเห็นจากผู้นำชุมชนตัวจริงเสียงจริง ที่สะท้อนปัญหาและข้อเสนอแนะ เพื่อเราจะนำไปขยายผลต่อ
ด้านนายปรัชญา กล่าวว่า ตนเกิดและโตในเขตพระนคร ได้เห็นความงดงามของเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมมากมาย ทั้งนี้ พรรคกล้ามีนโยบายสนับสนุนซอฟต์ พาวเวอร์ เพื่อพลิกโฉมประเทศไทย ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญที่เราจะใช้ทุนทางวัฒนธรรมที่มีมากกว่าประเทศอื่นมาก มาฟื้นฟูเศรษฐกิจบ้านเรา ให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ขณะที่นายสิงหนาท กล่าวยกตัวอย่างชุมชนบางลำพูว่าเป็นชุมชนเก่าที่ผู้คนหลากหลายได้ลงหลักปักฐานและขยายออกพร้อมกับการเกิดขึ้นของรัตนโกสินทร์และชีวิตที่เปลี่ยนยุคผ่านสมัยมามากกว่าสองร้อยปี นอกจากจะสามารถมองเห็นเค้าลางทางประวัติศาสตร์ผ่านถิ่นที่อยู่อาศัยในเชิงกายภาพ อีกทั้ง บางลำพูยังขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งอาหารเก่าแก่ มีอาหารหลากหลายทั้งประเภท ทั้งที่มาเชิงวัฒนธรรม เรียงรายอยู่แทบทุกถนนของย่าน ราคาแสนย่อมเยา เป็นเอกลักษณ์สำคัญของบางลำพู ที่อยากให้คงอยู่ต่อไป
ด้านผู้นำชุมชนสะท้อนปัญหาไปในทิศทางเดียวกันว่า เมื่อบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไป ชุมชนก็เปลี่ยนแปลงตาม ชุมชนดั้งเดิม ถูกแทนที่ด้วยกลุ่มทุนธุรกิจมาสร้างประโยชน์ในพื้นที่ ทำให้วัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เริ่มหายไป ยกตัวอย่างถนนข้าวสาร จากเดิมที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมติดอันดับโลก ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งบันเทิง ร้านเหล้าผับ และบาร์ผุดขึ้นมากมาย อีกทั้ง ชุมชนบางลำพูมีกลุ่มทุนนักธุรกิจเข้ามาหาประโยชน์ เพราะอยู่ในเขตเมืองเก่าที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ แม้คนในชุมชนพยายามต่อสู้เพื่อปกป้องเอกลักษณ์และวัฒนธรรม แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะนโยบายของรัฐบาลเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามาหาประโยชน์ในชุมชนอย่างถูกกฎหมาย
ทั้งนี้ นายกรณ์ พร้อมด้วยทีมงานรับที่จะลงพื้นที่ เพื่อหาแนวทางขับเคลื่อนร่วมกับชุมชน ในการฟื้นฟูอนุรักษ์ เมืองเก่าอย่างมีส่วนร่วม สร้างเศรษฐกิจให้เกิดกับชุมชน เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
