จากกรณี พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (รองผบช.ศชต.) อดีตทีมสอบสวนคดีขบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจาที่พบศพบนเทือกเขาไม้แก้ว จ.สงขลา ซึ่งมี พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก และพวกอีกกว่า 100 คน เป็นผู้ต้องหา เหตุเกิดเมื่อปี 2558 ออกมาเปิดเผยว่า ถูกกดดันและคุกคามจนต้องลาออกจากตำรวจและลี้ภัยไปยังประเทศออสเตรเลีย ทั้งยังถูกดำเนินคดีแต่ศาลยกฟ้องแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ก.พ. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ข้อเท็จจริงเรื่องนี้หลายปีแล้ว มีการออกข่าวสารพัดว่ามีการดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.ปวีณ ตนให้ตรวจสอบเบื้องต้น ปัจจุบันไม่พบเรื่องการดำเนินคดีแจ้งความ พล.ต.ต.ปวีณ หากใครมีข้อมูลก็ส่งมา

“ส่วนที่ว่าเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ผมตอบในนามตำรวจ 2 แสนกว่าคน หากกลับมาจะดูแลความปลอดภัยให้ กลัวอะไรก็มาบอกกัน รับรองว่าไม่มีเรื่อง ไม่ต้องห่วง ไม่มีใครไปทำอะไรหรอก ตำรวจดูแลได้อยู่แล้ว” ผบ.ตร.กล่าว พร้อมย้ำว่า ตรวจสอบแล้ว พล.ต.ต.ปวีณ ไม่มีหมายจับ ไม่ได้ถูกดำเนินคดี ตนไม่ทราบสถานะพลเมืองของ พล.ต.ต.ปวีณ ที่ออสเตรเลีย แต่ถึงอย่างไรท่านเป็นคนไทย ต้องดูแลเหมือนกันอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีข่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. ฟ้อง พล.ต.ต.ปวีณ ในนามส่วนตัว พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดตอนนั้น แต่ข้อมูลที่ตนมีขณะนี้ ตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีการแจ้งความดำเนินคดีอะไร และในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ไม่ได้ฟ้องร้อง พล.ต.ต.ปวีณ ในนามองค์กร

เมื่อถามว่า พล.ต.ต.ปวีณ ระบุว่ากลัว ผบ.ตร. กล่าวว่า ตนก็ไม่ทราบว่าเขากลัวอะไร แต่อะไรก็ช่างเถอะ เรายืนยันว่าปลอดภัย

“ไม่มีใครมาทำอะไรหรอก ผมดูแลให้ได้ ถ้าจะกลับมาก็บอกกันล่วงหน้า เดี๋ยวผมจัดการให้ ไม่ต้องห่วง” ผบ.ตร. กล่าวและว่า ยังไม่มีการติดต่อไปยัง พล.ต.ต.ปวีณ ขณะที่ พล.ต.ต.ปวีณ ก็ไม่ได้ติดต่อประสานมาที่ตำรวจ

เมื่อถามว่าจำเป็นต้องติดต่อ พล.ต.ต.ปวีณ หรือไม่ เมื่อเกิดประเด็นเช่นนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า จริงๆ ถ้าอยากจะกลับไม่มีใครห้ามท่าน ตนไม่ทราบรายละเอียดว่ามีใครไปอะไรหรือเปล่า เอาเป็นว่าถ้าในหน้าที่ของตำรวจ หากท่านกลัวไม่ปลอดภัย เราดูแลให้ได้ รับประกันว่าไม่มีเรื่อง ไม่มีใครมาทำอะไร

เมื่อถามว่าในฐานะเป็นหนึ่งในทีมสืบสวนสอบสวนคดีโรฮีนจา คดีนี้มีแรงกดดันจากใครหรือไม่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า คดีนี้ไม่มีแรงกดดันอะไร คดีนี้ผู้ต้องหาเป็นร้อย พนักงานสอบสวนเยอะมาก มีอัยการสูงสุดเป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน และมีรอง ผบ.ตร.ดูแล คนเป็นร้อยทำคดีนี้ ตนไม่เห็นใครบอกว่าใครโดนใครขู่อะไร ส่วนที่ พล.ต.ต.ปวีณ อ้างว่าโดนข่มขู่ ตนก็ไม่ทราบ เป็นเรื่องของ พล.ต.ต.ปวีณ แต่เท่าที่ตนทราบไม่พบเรื่องพวกนี้ คดีนี้ผ่านมานานแล้ว และอยู่ในชั้นศาล อย่างไรก็ตาม อาจต้องเรียกทีมสืบสวนสอบสวนมาคุยกันหน่อยว่ามีเหตุมีผลอะไร “ฝากบอกท่าน หากจะกลับมา จะดูแลความปลอดภัยให้”

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ต.ต.ปวีณ พูดถึง “ปลาตัวใหญ่” ผบ.ตร. กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าปลาตัวใหญ่คืออะไร แต่เมื่อดูในสำนวนการสอบสวนคดีนี้ทำได้ครบถ้วน ออกหมายจับเป็น 100 ราย ยังมีอีกประมาณ 30 คน ที่ยังจับไม่ได้ เร่งรัดจับกุมอยู่ กลุ่มที่ส่งฟ้องไปแล้วศาลลงโทษทุกราย ขณะนี้คดีนี้อยู่ในชั้นฎีกา เครือข่าย พล.ท.มนัส ขยายผลไปแล้วออกหมายจับเป็นร้อย คนที่ยังหนีต้องจับให้ได้ “ผมว่าของอย่างนี้ปิดกันไม่ได้หรอก คดีนี้คนเป็นร้อยๆ ใครทำอะไรก็คงปิดกันไม่ได้ เรื่องนี้ตั้งนานแล้ว”

ผบ.ตร. กล่าวยอมรับว่า คดีนี้ทำให้การปราบปรามการค้ามนุษย์ถูกจับตา ยืนยันว่าตำรวจไทยปราบปรามการค้ามนุษย์ต่อเนื่อง มีผลงานดีขึ้นตลอด และขบวนการค้ามนุษย์ ไม่ได้มีอิทธิพลเท่าไหร่ ไม่ถึงขั้นมาเปลี่ยนแปลงประเทศมันไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้น เราจัดการได้หมดอยู่แล้ว เรื่องปราบปรามค้ามนุษย์เราตั้งใจทำพร้อมชี้แจงทุกประเทศ “ฝากว่าท่านกลัวอะไร ไม่กล้าบอกใคร มาบอกส่วนตัวก็ได้ ผมยืนยันในนามตำรวจ 2 แสนกว่าคน เราดูแล” ผบ.ตร. กล่าว