จากกรณี รองเจ้าคณะอำเภอเมือง จ.อุบลราชธานี พร้อมสำนักพุทธศาสนาจังหวัดอุบลราชธานี นำกำลังตำรวจเข้าตรวจสอบ วัดนิคมกิตติยาราม จ.อุบลราชธานี หลังพบคลิปพระ-เณรในวัดรวม 6 รูป กำลังมั่วสุมจัดงานวัดเกิดและฉลองอกหัก นอกจากนี้ ยังมีคลิปหลุดของสามเณรดังกล่าว กำลังมั่วสุมรักร่วมเพศในกุฏิ ทั้งยังมีแชตพูดคุยกันระหว่างพระและสามเณรดังกล่าว ทำให้เกิดความเสื่อมเสียเป็นอย่างมาก จึงต้องดำเนินการจับสึกพระและเณรที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งคุมตัวไปสอบสวนทางกฎหมายเพราะเข้าข่ายกระทำความผิดทางเพศและ พ.ร.บ.คอมพ์

แฉพระ-เณรสายเหลือง ตั้งวงก๊งเหล้าฉลองวันเกิด คู่ขาบอกเลิกคากุฏิ

เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ตำรวจสืบสวนจังหวัดอุบลราชธานี ว่ามีการส่งกำลังไปตรวจสอบพระและเณรในวัดนิคมกิตติยาราม จ.อุบลราชธานี เพื่อหาสารเสพติดแล้ว ปรากฏว่าไม่พบแต่อย่างใด ขณะเดียวกันทาง พระครูประโชติกิตติคุณ เจ้าอาวาสวัดนิคมกิตติยาราม แจ้งว่าได้ประสานไปยังพระและเณรที่สึกออกจากวัดไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในคลิปมาให้การกับตำรวจแล้ว คาดว่าในสัปดาห์หน้าจะสามารถให้การกับตำรวจได้ อย่างไรก็ตามมีสามเณรที่อยู่ในคลิปบางรูปติดโควิด-19 ด้วย

ขณะเดียวกัน นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ชาว จ.สุโขทัย อดีตเณรที่เคยบวชอยู่ในวัดแห่งนี้ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนมาบวชเรียนที่วัดนิคมกิตติยาราม ได้ 2 ปี จำเป็นต้องสึกออกมาเพราะทนกับเรื่องพฤติกรรมของพระกับสามเณรที่ประพฤติปฏิบัติไม่เหมาะสมไม่ไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการมั่วสุมรักร่วมเพศในกุฏิ นอกจากคลิปลับที่หลุดออกมาบางส่วน ยังมีคลิปลับรักร่วมเพศระหว่างพระกับสามเณร และระหว่างสามเณรด้วยกัน ถูกตั้งกล้องถ่ายไว้อีกประมาณ 9 คลิป โดยมีพระรูปหนึ่งที่เพิ่งสึกออกไปเมื่อ 3 ก.พ. ที่ผ่านมาเป็นผู้ถ่ายคลิปและนำไปเผยแพร่ในกลุ่มรักร่วมเพศ หลังตกเป็นข่าวคงกลัวตำรวจจับกุม คิดว่าคงเผ่นหนีไปนานแล้ว

“….เรื่องที่ว่า มีการจับผมไปสึกนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ผมหนีออกมาจากวัดเอง เพราะทนโดนทุบตีบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับเณรรูปอื่น ๆไม่ไหว จำต้องยอมทิ้งการเรียนเพื่อแลกกับชีวิตที่เหมือนตกนรกทั้งเป็น…” นายเอ กล่าว