สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ว่า นายดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีและอดีตนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวถึงการที่เยอรมนีระงับการรับรอง โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติ “นอร์ด สตรีม ทู” (Nord Stream 2) ว่าภายในอีกไม่นานนี้ ยุโรปจะต้องเผชิญกับราคาค่าก๊าซธรรมชาติที่แพงกว่าเดิมสองเท่า เป็น 2,000 ยูโร (ราว 73,240.18 บาท) ต่อ 1,000 ลูกบาศก์เมตร


ทั้งนี้ เมดเวเดฟยังไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม ขณะที่กระทรวงพลังงานของรัสเซียยืนยัน การส่งก๊าซธรรมผ่านท่อให้แก่บรรดาลูกค้าในยุโรป เป็นไปตามข้อตกลงปัจจุบัน “ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง”


ด้านนายซาอัด อัล-คาบี รมว.พลังงานของกาตาร์ หนึ่งในผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) รายใหญ่ที่สุดของโลก กล่าวถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าปัจจุบันยุโรปนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 40% ต่อปี ถือว่าสูงมาก จึงไม่มีทางที่ตอนนี้ จะมีประเทศใดสามารถทดแทนปริมาณก๊าซธรรมชาติในระดับนั้นได้ ต่อให้เปลี่ยนมาใช้แอลเอ็นจีแทน ก็ยังเป็นเรื่องยากมาก เนื่องจากการขนส่งและการจัดเก็บก๊าซทั้งสองประเภทนั้น แตกต่างกัน


นอกจากนี้ การซื้อขายแอลเอ็นจีเป็นการทำข้อตกลงกันในระยะยาว การขอซื้อแบบกะทันหันเช่นนี้ย่อมเป็นไปได้ยากเช่นกัน


สำหรับโครงการนอร์ด สตรีม ทู เริ่มการก่อสร้าง เมื่อปี 2555 และเสร็จเมื่อปีที่แล้ว จะเป็นการเชื่อมต่อระหว่างแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ในภูมิภาคไซบีเรียของรัสเซีย กับประเทศในยุโรปตะวันตก ผ่านท่าเรือทางเหนือของเยอรมนี และขั้นตอนสุดท้ายก่อนการเปิดท่อส่งก๊าซ เหลือเพียงการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเยอรมนี


ขณะที่สหรัฐชื่นชมการตัดสินใจของรัฐบาลเบอร์ลินในเรื่องนี้ เพื่อตอบโต้การที่รัฐบาลมอสโกรับรองภูมิภาคดอนบาสของยูเครน อย่างไรก็ตาม ทำเนียบเครมลินเคยวิจารณ์ ว่าสหรัฐวิตกโครงการนอร์ด สตรีม ทู ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของก๊าซพรอม รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย และเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดของโลก จะเป็นการ “ลดบทบาท” ของยูเครน ในการคานอำนาจระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย.

เครดิตภาพ : REUTERS