เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงสถานการณ์เด็กปฐมวัยติดเชื้อว่า เด็กปฐมวัยตั้งแต่แรกเกิด-5 ขวบ รอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ติดเชื้อสูงมากขึ้นกว่า 6,000 กว่าคน โดย 6 จังหวัดที่พบติดเชื้อสูงสุดคือ กทม. นนทบุรี ชลบุรี สมุทรปราการ ภูเก็ต และนครศรีธรรมราช ยอดสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย. 64 ถึงปัจจุบัน ติดเชื้อ 107,059 คน เสียชีวิตสะสม 29 คน เกินครึ่งมีโรคประจำตัว สาเหตุการติดเชื้อมาจากการสัมผัสผู้ติดเชื้อในครอบครัวที่รับเชื้อมาจากนอกบ้าน เด็กเล็กยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ขาดความใส่ใจในสุขอนามัย

โดยผลสำรวจอนามัยอีเวนต์โพล พบว่าคนที่ออกไปทำงานนอกบ้าน เมื่อกลับเข้าบ้านแล้ว 28% ไม่ได้ทำการประเมินความเสี่ยงตัวเอง และมีไม่ถึงครึ่งที่สามารถแยกอุปกรณ์ของใช้ส่วนตัว ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่จับร่วม โดยเฉพาะการไม่กินอาหารร่วมกันและแยกใช้ห้องน้ำทำได้น้อยมาก ดังนั้นจึงขอแนะนำเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ฉีดวัคซีนให้ครบ หลีกเลี่ยงไปสถานที่ที่มีคนรวมตัวกันมาก อย่านำเด็กเล็กไป ทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วม รวมถึงของเล่น โดยเฉพาะเด็กเล็กที่มีโรคประจำตัวร่วมต้องระวังเป็นพิเศษ

นพ.เอกชัย กล่าวต่อว่า กรณีหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อตั้งแต่ระลอก 3 เม.ย. 64 พบ 6,829 คน เสียชีวิต 110 คน โดยมีเด็กเสียชีวิตตามไปด้วยหรือตายท้องกลม 66 คน เกินครึ่งหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิตมีโรคประจำตัว และไม่ได้รับวัคซีน ส่วนใหญ่เสียชีวิตช่วงการระบาดของเดลตา เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ที่เสียชีวิตในช่วงโอมิครอนไม่ถึง 10 คน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีรายงานหญิงตั้งครรภ์ฉีดวัคซีนเพียง 115,000 คน ยังมีอีก 2 แสนกว่าคน ที่อายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ที่ยังไม่ฉีด ส่วนใหญ่ยังกังวลจะมีผลต่อลูกในครรภ์ ยืนยันว่าวัคซีนปลอดภัย และรณรงค์ให้คู่สมรสฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม ก่อนตั้งครรภ์ ทั้งนี้ หญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อที่ไม่มีโรคประจำตัว สามารถเข้าระบบใน HI ได้ปกติ แต่ต้องระวังตนเอง หากมีอาการหนักขึ้น ไอ ไข้สูง หายใจไม่อิ่ม ระดับออกซิเจนต่ำกว่า 94% ให้ติดต่อหมอที่ฝากครรภ์ หรือโทรฯ สายด่วน 1330 และ 1669

ทางด้าน นพ.ธีรชัย บุญยะลีพรรณ รอง ผอ.สถาบันพัฒนาอนามัยเด็กแห่งชาติ กรมอนามัย กล่าวว่า อาการเด็กติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นไข้ต่ำ มีน้ำมูก ไอ เจ็บคอ อ่อนเพลียเหมือนหวัด บางรายอาจมีผื่น เบื่ออาหาร หรือท้องเสีย หากมีอาการหนัก ไข้สูงกว่า 39 องศา หายใจหอบเร็วกว่าปกติ ใช้แรงในการหายใจ ปากเขียว ระดับออกซิเจนปลายนิ้วน้อยกว่า 94% ซึมลง ไม่ดูดนมและไม่กินอาหาร ควรติดต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อนำเด็กเข้า รพ. ทั้งนี้ เด็กเล็กต่ำกว่า 1 ขวบ ให้สังเกตที่การกิน ดื่มนม ส่วนเกิน 1 ขวบให้สังเกตที่การเล่น ถ้าพฤติกรรมดังกล่าวต่ำกว่า 50-60% ควรพบแพทย์

กรณีเด็กติดเชื้อแยกกักตัวดูแลที่บ้านนั้น สิ่งสำคัญคือการเว้นระยะห่าง โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มเสี่ยง กรณีอายุเกิน 2 ขวบ แนะนำให้เด็กใส่หน้ากากอนามัย และอย่าเปิดแอร์นอน ควรเปิดโล่ง และแยกของใช้ส่วนตัว หากมีไข้ให้พยายามเช็ดตัวเป็นระยะมากกว่ากินยาพารา ส่วนใหญ่ 1-2 วันไข้ลด และพยายามทำกิจกรรมเล่นกับลูก กรณีเด็กเล็กต่ำกว่า 5 ขวบ ติดเชื้อที่เข้ารักษาใน รพ.ฮอสพิเทล หรือ CI จะให้ผู้ปกครองเข้าไปดูแลด้วย กรณีพ่อแม่ติด เด็กไม่ติด จะให้ญาตินำเด็กไปดูแล หากไม่มีญาติให้ประสานบ้านพักเด็กช่วยดูแลเล็ก.