เมื่อวันที่ 3 มี.ค. นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีต ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 9 (อุบลราชธานี) เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ติดตามการอุทธรณ์คำสั่ง/การทุเลาบังคับคดี จากคณะกรรมการวินิจฉัยพิจารณาอุทธรณ์ฯ กรณีที่นายชัยวัฒน์ ยื่นอุทธรณ์ หลังถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) ชี้มูลความผิด และ อ.ก.พ. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) สั่งให้ ปลดออกจากราชการ เนื่องจากล่วงเลยระยะเวลาที่จะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 240 วัน แต่ขณะนี้พ้นเวลา 240 วัน มาแล้ว 59 วัน

เปิดใจ’ชัยวัฒน์’ลั่นทำถูกต้อง ‘ปปท.’ชี้ผิดดูแค่กระดาษ

นายชัยวัฒน์ เผยอีกว่า หลัง อกพ.กระทรวง ทส. สั่งให้ปลดออกจากราชการ ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม หรือ “ก.พ.ค.” เมื่อวันที่ 7 พ.ค.64 และต่อมา ก.พ.ค. แต่งตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยพิจารณาอุทธรณ์ฯ ในวันที่ 8 มิ.ย.64 ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 กำหนดให้ ก.พ.ค.พิจารณาคำอุทธรณ์ของผู้อุทธรณ์ ให้แล้วเสร็จไว้ไม่เกิน 240 วัน โดยให้นับตั้งแต่วันที่ยื่น สำหรับกรณีนายชัยวัฒน์ ให้นับหนึ่งตั้งแต่ 7 พ.ค.64 แต่จนบัดนี้ เวลาล่วงเลยผ่านไป ถึง 299 วัน (7 พ.ค. 64-2 มี.ค. 65) จนถึงขณะนี้ยังไม่เคยได้รับหนังสือตอบรับจาก “ก.พ.ค.” ซึ่งตัวเองต้องได้รับคำวินิจฉัยว่า หาก ก.พ.ค. ไม่เห็นด้วยกับคำอุทธรณ์ จะได้อ้างหนังสือคำวินิจฉัยของ ก.พ.ค. ไปยื่นต่อศาลปกครองสูงสุด ภายใน 90 วัน โดยระยะเวลา 90 วัน ที่ต้องยื่นศาลปกครอง ให้นับจากเวลา 240 วัน ที่ ก.พ.ค.ต้องวินิจฉัยให้แล้วเสร็จ แต่เมื่อผ่านพ้นมาถึง 299 วัน แสดงว่าตนมีเวลาที่จะต้องยื่นศาลปกครอง อีกเพียง 30 วันเท่านั้น

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เปิดเผยว่า จากกรณีของนายชัยวัฒน์ ได้เข้ามาร้องต่อกรรมาธิการ ป.ป.ช.ไว้ก่อนแล้ว และกรรมาธิการ ได้สอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว แต่นายชัยวัฒน์ ต้องการส่งความเห็นจาก ก.พ.ค.ประกอบการพิจารณา แต่คุณชัยวัฒน์ มาแจ้งว่า ตามระยะเวลาที่ ก.พ.ค.จะต้องพิจารณาและทำความเห็นพ้นกำหนดเวลาไปแล้ว ในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องให้ความเป็นธรรมกับคุณชัยวัฒน์ ซึ่ง ก.พ.ค.มีกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนต้องทำให้เสร็จ ถ้าทำไม่เสร็จหมายความว่า การกระทำนั้นมีความผิด อันนี้เป็นเรื่องที่ทางราชการจะต้องรับผิดชอบต่อไป