เมื่อวันที่ 8 มี.ค. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความชื่อดัง กล่าวภายหลังเดินทางไปออกรายการ โหนกระแส ว่า ตอนนี้คงไม่มีพยานหลักฐานเด็ดมาให้ คงจะเป็นการหาคำตอบว่าน้องตกตรงไหน ตอบคำถามสังคมมากกว่า ส่วนเรื่องจดหมายของคุณแม่ที่ห้ามตนยุ่งเกี่ยวกับคดี ตนไม่ได้สนใจอยู่แล้ว แล้วก็รู้ด้วยว่าในเป็นคนแนะนำให้คุณแม่เขียนจดหมาย รู้สึกตลกที่มาห้ามตนมาเป็นทนาย ตนไม่เกี่ยวกับคุณแม่ แค่มาเรียกร้องความเป็นธรรมให้แตงโม คุณแม่มีสิทธิตามล่าหาความจริงคนเดียวซะที่ไหน แตงโมเป็นดารา ทุกคนมีสิทธิกันทั้งนั้น

“ผมรู้อยู่แล้วว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง ทั้งเรื่องจดหมาย หรือการพูดในรายการต่าง ถือว่าใจร้ายมากเลย เพราะด้วยถ้อยคำหมิ่นประมาททั้งนั้น เป็นไปได้สูงอาจจะเป็นตำรวจที่ตนเปิดชื่อไป แล้วคุณแม่ก็แต่งตั้งทนายความแล้ว ก็เป็นทนายความที่ตำรวจคนนี้แนะนำมา อย่างที่คุณแม่ให้สัมภาษณ์ว่า ได้มีการปรึกษาเจ้าหน้าที่ แม้กระทั่งเรื่องเงินว่าจะเรียกเท่าไหร่ ผมขอฝากว่าระวังจะเอาไม่อยู่ คุณแม่พูดเยอะ วันหนึ่งเกิดผิดใจขึ้นมาระวังจะเอาไม่อยู่ ตอนนี้ผมไม่ทราบว่าผลการสอบจะออกมาเป็นยังไง ผมก็ไม่รู้ว่าจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมหรือไม่ มีการทำลายพยานหลักฐาน หรือให้การเท็จหรือเปล่า ต้องรอดูกันผลของตำรวจจะเป็นยังไง เพราะเรื่องนี้มีลับลมคมในพอสมควร ผมได้ยินมาว่าต้องมีคนถูกดำเนินคดี คนที่อยู่ใกล้ชิดน้องแตงโมที่สุด เพราะเขาอาจจะมีการทำอะไรบางอย่างให้น้องแตงโมตกลงไป แต่ยังไม่มีการแจ้งข้อหาเพิ่ม แต่ทุกอย่างคงอยู่ในสำนวนของเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว ส่วนเรื่องยาเสพติดตนก็ได้ยินมาว่า เรื่องนี้ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน” ทนายษิทรา กล่าว