เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 11 มี.ค. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 1 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ได้แถลงความคืบหน้าทางคดีของนักแสดงสาวแตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ จากการตกเรือเสียชีวิตเมื่อคืนวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่สามารถสรุปสำนวนคดีได้ และยังมีประเด็นความเคลือบแคลงสงสัยจากสังคมอย่างต่อเนื่องนั้น

ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปสำนวนคดีได้ เนื่องจากยังต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ และของกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาประกอบสำนวนคดีโดยเฉพาะผลการตรวจบาดแผลที่ศพ ซึ่งได้ให้แพทย์นิติเวช จากคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาลมาร่วมพิสูจน์ด้วยว่าบาดแผลเกิดก่อนหรือหลังการเสียชีวิต อีกทั้งรอยนิ้วมือแฝง คราบเลือด คราบดีเอ็นเอและสิ่งของทั้งหมดที่ตรวจพบบนเรือสปีดโบ๊ตลำที่เกิดเหตุ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งหากได้ผลการตรวจพิสูจน์ทั้งหมดแล้วก็จะต้องนำมาประชุมเพื่อร่วมสรุปกับชุดสืบสวนสอบสวนก่อนจึงจะสรุปสำนวนคดีได้ ส่วนเรื่องปัสสาวะท้ายเรือ ยังต้องรอสำนวนคดีมาวิเคราะห์ประเด็นร่วมกันทุกอย่าง เมื่อยังไม่เป็นรายงานอย่างถูกต้องจึงไม่สามารถวิเคราะห์ได้ อย่างไรก็ตาม คลิปต่างๆที่ปรากฏ เจ้าหน้าที่ตำรวจตำรวจได้มีการรวบรวมทั้งหมดทุกคลิปรวมถึงภาพจากกล้อง CCTV ซึ่งมีจำนวนมาก แต่ทางฝ่ายสืบสวนเเละฝ่ายสอบสวนก็ได้รวบรวมไว้ทั้งหมด เพื่อนำมาวิเคราะห์หาข้อสรุป

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงประเด็นภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุด กฟผ. บางกรวย จ.นนทบุรี ที่สามารถจับภาพเรือสปีดโบ๊ตของนักแสดงสาว แตงโม-นิดา และกลุ่มเพื่อน ขณะแล่นสวนกับเรือจูงหรือเรือขนสินค้าการเกษตร ว่าได้มีการเรียกสอบปากคำคนบนเรือ  พยานที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวหรือยัง พล.ต.ท.จิรพัฒน์ เปิดเผยว่า ได้มีการเรียกสอบปากคำหมดแล้ว ทั้งพยานที่เกิดเหตุ พยานที่เห็นเหตุการณ์และพยานแวดล้อม โดยขณะนี้รวมสอบปากคำไปแล้วกว่า 80 ปาก ซึ่งก็จะประกอบอยู่ในสำนวนคดี พร้อมยืนยันว่าพยานทุกคนให้ปากคำที่เป็นประโยชน์ ซึ่งก็ประกอบไปด้วยที่มีน้ำหนักและไม่มีน้ำหนัก แต่ว่าเจ้าหน้าที่ก็ไม่ทิ้งประเด็นใดๆทั้งสิ้น

ส่วนกรณีที่มีการวิเคราะห์ถึงบาดแผล และมูลเหตุครั้งนี้ว่าเกิดจากการฆาตกรรมหรือไม่ ผบช.ภ.1 เผยว่า จากพยานหลักฐานที่มีอยู่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีเหตุบ่งชี้ได้ว่าเกิดจากเหตุฆาตกรรม ยังคงเป็นเพียงอุบัติเหตุอยู่ และยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่าเกิดจากการพลัดตกไปเองหรือมีผู้กระทำ

ส่วนประเด็นที่สังคมตั้งข้อสังเกตว่าเป็นคดีฆาตกรรม จะกระทบกับความเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่นั้น ผบช.ภ.1 ยืนยันว่า ไม่เป็นอุปสรรค เนื่องจากได้มีการดำเนินการสอบสวนอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมาและไม่ใช้ความรู้สึกในการดำเนินการ

ทั้งนี้ ผบช.ภ.1 เปิดเผยทิ้งท้ายว่า หากบุคคลใดมีข้อมูลหรือหลักฐานอื่นๆที่บ่งชี้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ ก็สามารถแจ้งหรือส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ เจ้าหน้าที่พร้อมรับข้อมูลจากทุกฝ่ายเพื่อให้ได้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายมากที่สุด