กรณีตำรวจกองปราบปราม 8 นาย ขับรถฟอร์ด 4 ประตู ติดตามจับกุมนายจำรัส รักจันทร์ อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นตามหมายจับของ สภ.ป่าบอน จ.พัทลุง มือปืนตามประกาศจับสำนักงานตำรวจแห่งชาติลำดับ 145 ซี่งมีส่วนพัวพันในคดียาเสพติด ตั้งแต่บริเวณหน้าวัดบวงช้าง หมู่ 7 ต.นาโหนด อ.เมืองพัทลุง เพื่อจับกุมตัวคนร้ายตามหมายจับ คนร้ายขัดขืนและได้ยิงปะทะกับคนร้ายบริเวณใกล้สี่แยกบ้านท่านางพรหม ถนนสายสี่แยกบ้านท่านางพรหม-ท่าควาย หมู่ 6 ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ซึ่งทำให้ตำรวจบาดเจ็บและเสียชีวิต คนร้ายถูกยิงเสียชีวิตด้วยเช่นกัน เหตุเกิดวันที่ 9 มี.ค.

ต่อมา พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. นำกำลังตำรวจสอบสวนกลาง สนธิกำลังร่วมกับ ตำรวจภูธรภาค 9 จับกุม นายพงศกร หรือเจ สุวรรณมะโณ อายุ 22 ปี หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับได้ หลังหลบซ่อนตัวอยู่ภายในพื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา พร้อมยึดอาวุธปืนในการก่อเหตุ 2 กระบอก ซุกซ่อนในกอหญ้าใต้ต้นปาล์มและต้นกล้วย

ไล่ล่าเดือดโจรร้ายยิงสู้ตร.ดับ1เจ็บ1 ก่อนถูกวิสามัญคาเก๋ง เผ่นหนีอีก3

จับแล้วลูกน้อง ‘ฉุย รักจันทร์’ แก๊งมือปืนเหิมยิง ‘ด.ต.กองปราบฯ’ ดับ

ล่าสุด นายพงศกร หรือเจ ให้การรับสารภาพว่า อยู่ร่วมในขณะเกิดเหตุจริง โดยนั่งโดยสารอยู่ภายในรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน คันหน้าที่ขับปาดปิดหน้ารถตำรวจ โดยมีนายอัฐพล หรือ รวย เป็นคนขับ แต่อ้างว่าไม่ได้เป็นคนยิง ซึ่งหลังเกิดเหตุได้ขับรถมาจอดทิ้งไว้ที่ทางเข้าสวนปาล์ม ก่อนเดินเท้าเข้าไปภายใน แล้วทิ้งอาวุธปืนไว้ที่จุดดังกล่าว จากนั้นจึงเดินตัดทุ่งนาข้ามมานอนพักอยู่ในขนำสวนยางที่ห่างออกไปไม่มาก ก่อนรุ่งเช้าจะติดต่อให้พ่อขับรถมารับพากลับไปซ่อนตัวที่บ้านพักใน อ.รัตภูมิ จ.สงขลา จากนั้นนายอัฐพล จึงแยกย้ายหลบหนีไปอีกทาง

นอกจากนี้ นายพงศกร ยังรับอีกว่า สาเหตุที่นัดมารวมตัวกันในพื้นที่บ้านท่าควาย อ.เขาชัยสน ก็เพื่อมาเป็นเพื่อน นายวัชระ หรือ ดำ ที่ยกขบวนมาสู่ขอแฟนสาว ไม่ได้เป็นการรวมตัวกันเพื่อเตรียมรับงานยิงคนตามที่มีการกล่าวอ้าง พร้อมยังอ้างอีกว่านายจำรัส เลิกรับงานยิงคนนานหลายปีแล้ว ส่วนที่ต้องก่อเหตุดังกล่าว เนื่องจากก่อนเกิดเหตุ นายจำรัส เห็นรถของเจ้าหน้าที่ขับวนผ่านหน้าบ้านผิดสังเกตเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคู่อริเก่า จึงรีบขับรถตามปิดหัวปิดท้ายประกบยิง โดยไม่ได้ทันคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจากการยิงปะทะกันดังกล่าว ยังส่งผลให้ นายอัฐพล เพื่อนของตนได้รับบาดเจ็บถูกที่ยิงเข้าที่ฝ่ามืออีกด้วย.