จากเหตุอื้อฉาว ศึกฟุตบอลไทยลีก 3 “มังกรฟ้าลีก” รอบแชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ชนะ บางกอก เอฟซี 3-0 ที่ สนาม ม.นอร์ทกรุงเทพ​ รังสิต ช่วงทดเวลา อิศเรศ น้อยใจบุญ ผู้เล่น บางกอก เอฟซี โมโหที่ ศุภสัณฑ์ เรืองศุภนิมิต ของ ม.นอร์ทกรุงเทพ ไปเตะสะกิดขา จึงวิ่งเข้าไปฟันศอกซ้ายเข้าเต็มใบหน้า ศุภสัณฑ์ จนปากเหวอะ เย็บถึง 24 เข็ม เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายถึงพฤติกรรม โดย อิศเรศ โดนใบแดงจากจังหวะดังกล่าวทันที และไม่กี่อึดใจต่อมา ต้นสังกัด บางกอก เอฟซี ประกาศยุติสัญญา อิศเรศ เพราะเป็นความผิดร้ายแรงต่อเพื่อนร่วมอาชีพ ยืนยันไม่สนับสนุนการกระทำที่ไม่มีน้ำใจนักกีฬา รวมถึงการใช้ความรุนแรงในสนาม พร้อมแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยต่อมา อิศเรศ ได้ออกมาขอโทษ และยอมรับผิด ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ

ส่วนเรื่องบทลงโทษนั้น โดยปกติ คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่มี พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน เป็นประธาน จะประชุมลงโทษทุกวันอังคาร ซึ่งเมื่อดูจากระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ ของสมาคมฯ มีสิทธิเข้าข่าย

1.ใบแดงโดยตรง จากประพฤติผิดอย่างร้ายแรง เช่น นักกีฬาฟุตบอลเจตนาทําร้ายคู่ต่อสู้โดยไม่ได้เล่นลูกบอล แบน 2 นัด ปรับเงิน 20,000 บาท

2.ทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายของผู้ถูกทําร้าย แบน 2-4 นัด ปรับเงิน 40,000-60,000 บาท แต่หากเป็นเหตุให้ผู้ถูกทําร้ายได้รับอันตรายสาหัส (ตามการพิจารณาของแพทย์) ถูกแบน 3-5 นัด ปรับเงิน 60,000-80,000 บาท

นั่นหมายความว่า อิศเรศ มีสิทธิโดนแบน 7 เกม จาก 2 ข้อดังกล่าว แต่โทษปรับเงินนั้น ระดับไทยลีก 3 จะปรับ 1 ใน 3 ของจำนวนเต็ม

นอกจากนั้น อิศเรศ อาจโดนโทษหนักกว่านี้ หากเข้าข่ายผิดระเบียบว่าด้วยเรื่องจรรยาบรรณ กรณีทำให้วงการฟุตบอลไทย เสื่อมเสียชื่อเสียง และ ภาพลักษณ์ ตามการพิจารณาของ คณะพิจารณาวินัยมารยาท

ด้านทีม “อาชาผยอง” ม.นอร์ทกรุงเทพ แถลงการณ์ว่า สโมสรดูแลรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ศุภสัณฑ์ นักเตะวัย 19 ปี ที่ยังเรียนปี 1 จากที่ต้องเย็บ 24 เข็มที่ริมฝีปากด้านบน จากนั้นได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี แจ้งความเอาผิดกับ อิศเรศ ข้อหาทำร้ายร่างกายอันเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ จะติดตามการดำเนินคดีอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อเยาวชน และไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงในการแข่งขันฟุตบอลในทุกระดับ

จากนั้นช่วงเที่ยงวันที่ 14 มี.ค. แถลงเพิ่มเติมอัพเดทอาการ “เจ้าฮอลล์” ศุภสัณฑ์ ว่านอนรักษาตัวอยู่ที่แคมป์สโมสร ล่าสุดมีรอยฟกช้ำที่ใบหน้า อักเสบที่บาดแผล และจะเข้าเอกซเรย์กระดูกฟัน เนื่องจากได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง เบื้องต้นยังไม่สามารถรับประทานอาหารได้ แพทย์แนะนำให้ทานอาหารเหลวไปสักระยะก่อน

ส่วนเรื่องคดี ผศ.ดร.ปัทมา รูปสุวรรณกุล ประธานสโมสร จะแต่งตั้งทนายความดูแลคดีอย่างใกล้ชิด และมอบหมายให้คณะรัฐศาสตร์ ม.นอร์ทกรุงเทพ ต้นสังกัดที่ ศุภสัณฑ์ ศึกษาอยู่ ร่วมรับผิดชอบคดีความดังกล่าวด้วย โดย ศุภสัณฑ์ ได้รับทุนศึกษาปริญญาตรีที่ ม.นอร์ทกรุงเทพ ทั้งสโมสร และมหาวิทยาลัย จะดูแลเต็มที่ ขณะที่ “ออฟ” ภูริพัฒน์ ประวัติรุ่งเรือง รองประธานสโมสรฯและผู้จัดการทีม ยืนยันว่าให้ดำเนินการเอาผิดถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างแก่เยาวชนและวงการกีฬา เหตุการณ์ดังกล่าวนับว่าเป็นการเล่นที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยลีก