เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่รัฐสภา นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการคว่ำร่างกฎหมายลูกเลือกตั้ง ในวาระ 3 ว่า ฝ่ายนิติบัญญัติมีกระบวนการพิจารณากฎหมาย โดยมี กมธ.กลั่นกรองและมั่นใจขณะนี้ไม่มีเหตุให้ล้มหรือคว่ำกฎหมายลูก ในวาระ 3 หากการพิจารณาอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญแต่หากในวาระ 3 กฎหมายลูกที่เป็นเครื่องมือยุบสภาถูกตีตกไปจะเกิดเดดล็อก และนายกรัฐมนตรีมีอำนาจ ออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจของคณะ กมธ. ไปแล้ว
ต่อมาภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น นายสมชัย ศรีสุทธิยากร โฆษก กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.แถลงสรุปผล ประชุม เริ่มจากประเด็นบัตรเลือกตั้งจะเป็นเบอร์เดียวกันทั้งประเทศได้หรือไม่ กมธ.มีความเห็นแตกเป็น 2 ฝ่าย โดยกมธ.ที่เป็นส.ส.เกือบทั้งหมด 90 เปอร์เซ็นต์ เห็นด้วยกับบัตรเบอร์เดียวเนื่องจาก กกต.จัดการเลือกตั้งได้สะดวก และพรรคการเมืองสามารถรณรงค์หาเสียงได้โดยไม่สับสน ขณะที่กมธ.ที่เป็นส.ว. กังวลว่าหากเป็นเบอร์เดียวทั้งประเทศจะขัด มาตรา 90 ของรัฐธรรมนูญที่ไม่ได้มีการแก้ไขหรือไม่ ดังนั้นที่ประชุมจึงนัดหมายวันที่ 23 มี.ค. อภิปรายต่อเพื่อลงมติว่าจะเป็นเบอร์เดียวทั้งประเทศหรือไม่ โดยเชื่อว่าไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร กมธ.เสียงข้างน้อยอาจ สงวนคำแปรญัตติ ไปอภิปรายในวาระ 2 และวาระ 3
นอกจากนี้ที่ประชุม กมธ.ยังเห็นต่างเรื่องการกำหนดเขตเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อว่าสามารถใช้ คำว่า “ใช้ประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง” ได้เหมือนกับที่เคยเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับก่อนๆที่มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบได้หรือไม่ ซึ่งกมธ.มีการอภิปรายทั้งข้อดี-ข้อเสีย โดยข้อดีคือมีความชัดเจนว่าารเลือกบัตรแบบบัญชีรายชื่อ การนับคะแนนจะนับรวมทั้งประเทศโดยใช้ประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง แต่มี กมธ.บางส่วนโต้แย้งอาจเกิดปัญหา หากมีการทุจริตการเลือกตั้ง เช่นพบว่ามีการกระทำผิดที่ อ.เบตง จ.ยะลา แต่ผู้ร้องอาจไปร้องที่ จ.เชียงราย เพราะถือว่าเป็นเขตเลือกตั้งเดียวกัน ในประเด็นนี้ยังไม่ได้ข้อยุติกมธ.จึงได้ตั้งคณะทำงานชุดเล็กพูดคุยเพื่อหาข้อยุติรวมถึงการขอพ่วงประเด็นว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ หากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องการให้มีการออกเสียงประชามติจะสามารถจัดการออกเสียงในวันเดียวกันกับวันที่จัดให้มีการเลือกตั้งได้หรือไม่ โดยคณะทำงานมีกรอบเวลา 14 วันก่อนนำกลับเข้ามาเสนอที่ประชุม กมธ. เพื่อลงความเห็นร่วมกันอีกครั้ง.
