ภายหลังจากทีมข่าวเดลินิวส์ ได้เปิดประเด็นถึงเรื่องราวปัญหาของ กิจการหินและสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ เขาวังปลา หมู่ 11 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เนื้อที่ 208 ไร่ กระทั่งสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจพบว่า การทำกิจการหินและสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ มีข้อบกพร่อง จึงเสนอแนะพิจารณายกเลิกและยุติการประกอบกิจการหิน นอกจากนี้ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ก็ยังไม่พิจารณาต่ออายุประทานบัตรให้แก่กองทัพเรือ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจส่วนกลางเดลินิวส์ รายงานกรณี คณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) นำโดย นายจารึก ศรีอ่อน นายสุทา ประทีป ณ ถลาง รองประธาน กมธ.ป.ป.ช. พร้อมนักวิชาการและหน่วยงานเกี่ยวข้องที่ได้เดินทางลงมาตรวจสอบ กิจการหินและสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ (โรงโม่หิน ทร.) เป็นวันที่ 2 เสร็จแล้ว ได้เข้าร่วมหารือที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดชลบุรี ร่วมกับบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผวจ.ชลบุรี นายชัชพล อินทโฉม อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี พร้อมตัวแทนจากหน่วยงานจากฐานทัพเรือสัตหีบ, ผจก.กิจการหิน สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ, สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฯ, ผู้แทนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ฯลฯ

ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายจารึก ศรีอ่อน รองประธาน กมธ.ป.ป.ช.ฯ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า จากได้ลงพื้นที่เพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริงในกรณีที่เกิดขึ้นได้ข้อมูลพอสมควร โดยเฉพาะในประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจว่าการทำเหมืองหินในพื้นที่ดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ และหากมีคนจะเข้ามาทำเหมืองต่อจะสามารถทำได้หรือไม่นั้น ขอเรียนให้ทราบว่าที่ผ่านมากองทัพเรือทำกิจการมาโดยที่ไม่มีใครมาท้วงติง แต่ขณะนี้ทาง สตง.ได้พิจารณาชัดเจนแล้วว่าไม่สามารถกระทำได้ถือเป็นการขัดรัฐธรรมนูญ เนื่องจากหน่วยงานรัฐไม่สามารถทำธุรกิจแข่งกับเอกชนได้ เมื่อทางกองทัพเรือทราบก็มิได้ดื้อดึงจะทำกิจการต่อ กำลังทำแผนส่งคืนพื้นที่ประทานบัตรให้กับอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ซึ่งการส่งคืนพื้นที่เหมืองจำต้องมีการฟื้นฟูพื้นที่ตามหลัก EIA หลังการฟื้นฟูเสร็จสิ้นทางจังหวัดต้องรับไปพัฒนาต่อจะเป็นแหล่งท่องเที่ยว หรืออื่นๆ ตามความเหมาะสม

กมธ.ฯสอบเข้ม ‘เหมืองหินทัพเรือ’ ลุยขยายผลปมขุดหน้าดินขาย

“อีกประเด็นหนึ่งคือ หากทางกองทัพเรือคืนพื้นที่ประทานบัตรแล้ว ประชาชนรายอื่นๆ หรือนิติบุคคลรายอื่นๆ สามารถมาขอประทานบัตรเพื่อทำต่อได้หรือไม่ ทางอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรีได้ชี้แจงแล้วว่า พื้นที่ดังกล่าวถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่เขตปลอดภัยและมั่นคงแห่งชาติ อยู่ในเขตทรงสงวน อาจจะไม่สามารถออกประทานบัตรให้ได้อีก”

นายจารึก กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนเรื่องของการเอื้อผลประโยชน์ซึ่งถือเป็นการทุจริตโดยมิชอบ ในชั้นของการสอบสวน ทางคณะ กมธ.ป.ป.ช.ฯ ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาให้ข้อมูล ขณะนี้พอได้ข้อมูลแล้วว่าใครเป็นผู้กระทำความผิดบ้าง รวมถึงรายได้ที่ได้จากการทำเหมืองถูกนำไปใช้ในส่วนใด แต่ประเด็นหลักที่ประชาชนให้ความสนใจคือเรื่องของการขาย “มูลดิน” ที่ได้จากการทำเหมืองหินแล้ว เงินจำนวนดังกล่าวถูกนำไปใช้ในส่วนไหนเรื่องนี้กำลังทำการสอบสวนอยู่ ซึ่งใช้เวลา 30 วัน เมื่อได้ข้อมูลจะเร่งนำมาเปิดเผยว่าเงินจากการขายมูลดินนั้นถูกนำไปใช้ในส่วนใดถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หากพบว่าผิดต้องดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย แม้ว่าผู้ที่กระทำความผิดจะเกษียนอายุราชการก็สามารถเอาผิดได้เพราะความผิดจะติดตัวไปตลอด ขอยืนยัน กมธ.ป.ป.ช.ฯ จะทำการสอบสวนตรงไปตรงมาเพื่อไม่ให้ประเทศชาติและประชาชนเกิดความเสียหาย

ด้าน นายภัคธรณ์ เทียนไชย ผวจ.ชลบุรี กล่าวว่า ในส่วนของพื้นที่ดังกล่าว ทางจังหวัดชลบุรีจะต้องรอให้มีการสอบสวนเรื่องเสร็จสิ้น เมื่อทางจังหวัดรับพื้นที่คืนมาจึงจะเป็นหน้าที่ต้องมาพิจารณาว่าจะจัดการพื้นที่ดังกล่าวอย่างไร  อาจจะให้เป็นพื้นที่ที่ทางป่าไม้ดูแล หรือท้องถิ่นดูแล และมาหาวิธีดูแลพัฒนา อาจทำให้เป็นแหล่งน้ำสาธารณะ หรืออื่นๆ ตามความเหมาะสมต่อไป.