เมื่อวันที่ 1 เม.ย. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อนำคลิปหลักฐานกล้องวงจรปิดมามอบให้เจ้าหน้าที่ โดยมาพร้อมกับ นายวัชรไกรศร เกตุจรัส ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปกรรมในการใช้เทคนิคเรื่องแสงและเงา

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า หลักฐานชิ้นนี้เป็นหลักฐานคลิปกล้องวงจรปิดจากโกดังสินค้าเอกชน ที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เคยไปขอมาได้ แต่ตอนนั้นคลิปนี้ไม่ได้เป็นที่สนใจ ซึ่งเมื่อตนนำมาให้ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์เรื่องแสงและเงา ก็พบว่า คลิปนี้เป็นหลักฐานชัดเจนว่า แซน วิศาพัช ให้การเท็จ เพราะไม่ปรากฏว่าแซนนั่งอยู่ที่ท้ายเรือในช่วงเวลาที่คาดว่าเป็นตอนที่แตงโม ตกเรือไป ตามที่แซนให้การว่านั่งท้ายเรือนอนหงายเล่นมือถือ แล้วแตงโมเดินมาปัสสาวะและจับขาตนเอง

โดยในคลิปดังกล่าว ตนได้นำมาให้ผู้เชี่ยวชาญปรับแสงและเงา ดูประกอบกับโครงสร้างเรือ คือส่วนของหลังคาเป็นหลัก ซึ่งทำให้เห็นว่า ในช่วงเวลา 22.32 น. เป็นต้นไป ที่เรือวิ่งผ่านจุดนี้และใกล้เคียงกับช่วงเวลาที่แตงโมตกเรือ ไม่ปรากฏว่ามีเงาคนนั่งอยู่ที่เบาะท้ายเรือแต่อย่างใด โดยผู้เชี่ยวชาญได้ดูเงาและวัดสเกลจากหลังคาเรือ เนื่องจากส่วนของหลังคาไปไม่ถึงเบาะท้ายเรือ แต่ปรากฏเงาว่ามีคนนั่งอยู่ที่เบาะด้านข้างเรือฝั่งซ้าย ซึ่งไม่ยืนยันว่าเป็นใคร แต่อาจจะเป็นแซนก็ได้ ที่ย้ายไปนั่งเพราะเห็นว่าท้ายเรือไม่ปลอดภัย หลังเกิดการกระตุกของเรือตามข้อมูลเรื่องความเร็วที่บอกว่า วิ่งมา 8 นอต แล้วลดเหลือ 3.3 นอต ก่อนจะเร่งขึ้นไปที่ 10 นอต อย่างกะทันหัน หรืออาจจะเป็นการไปนั่งหลบลมที่อ้างว่าเข้าตาก็ได้

ดังนั้น ตนจึงเชื่อว่าแซนให้การเท็จ และเชื่อว่าแตงโมไม่ได้ตกเรือจากท้ายเรือด้วย เพราะหากแซนไม่ได้นั่งอยู่ท้ายเรือ แตงโมจะจับขาแซนแล้วตกลงไปที่ท้ายเรือได้อย่างไร ประกอบกับเรื่องบาดแผลที่ต้นขาด้านใน ตนได้ใช้หลักวิศวกรรมมาวิเคราะห์ พบว่าเป็นไปไม่ได้ที่เรือกำลังวิ่งด้วยความเร็ว 8 นอต แล้วคนตกไปด้านท้าย แล้วจะโดนใบพัดหรือฟินเรือฟันขาได้ เพราะเรือวิ่งไปข้างหน้าแล้ว ซึ่งตนยังได้ลองสเกตช์ภาพจำลองมาด้วยว่า หากคนตกลงไปจากด้านหัวเรือ จะสามารถถูกดูดเข้าไปใต้ท้องเรือได้

‘จ๊อบ-แซน-กระติก’ระทึก! ตร.ยันวันนี้ไม่มีหมายจับเพิ่ม แต่อนาคตไม่แน่

ส่วนสาเหตุที่ตนเดินทางมายื่นหลักฐานกับตำรวจกองปราบฯ เพราะกลัวว่าตำรวจภูธรภาค 1 จะไม่รับหลักฐาน หรือไม่นำไปเข้าสำนวนคดี เลยให้กองปราบฯ เป็นสื่อกลางในการรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำตน และส่งหลักฐานให้ตำรวจภูธรภาค 1 ต่อไป เพราะก่อนหน้านี้เคยมีตำรวจยศพลตำรวจตรีในจังหวัดนนทบุรี โทรฯ มาหาตน ขอให้ไม่ยุ่งเรื่องนี้ และถามว่าออกหมายจับไปแล้ว 2 คน ยังไม่พอหรือ ซึ่งแม้ตำรวจจะมีหลักฐานคลิปตัวนี้อยู่แล้ว แต่เชื่อว่ามองไม่เหมือนกันในการวิเคราะห์ด้วยแสงและเงา อย่างไรก็ตาม การที่มาวันนี้ ตนก็ไม่กลัวแม่แตงโมจะหาว่าเข้ามายุ่ง เพราะตนไม่ได้สนใจแม่ แต่สนใจแค่ว่าแตงโมต้องไม่ตายฟรี

“มั่นใจว่าสิ่งที่ทำวันนี้ จะทำให้มีผู้ถูกออกหมายจับเพิ่มเติม ก็คือ แซน ในข้อหาให้การเท็จ และจะทำให้คดีนี้ ต้องกลับไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ด้วย พร้อมยืนยัน ไม่กลัวจะถูกฟ้อง หากตนพูดไม่จริง ก็ให้แซนฟ้องกลับได้เลย โดยตนได้นำหลักฐานอื่นๆ คือ คำพูดจากการไลฟ์สดของแซน และคำพูดที่โบ TK แถลงว่ามีคนบนเรือพูดโกหก มาประกอบด้วย” นายอัจฉริยะ กล่าว