เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจาก นายภาษิต วิริญาภรณ์ อายุ 61 ปี ชาวสวนผลไม้ บ้านเนินยาง ว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวน แอบเข้ามาลักขโมยตัดต้นพะยูงไม้หวงห้ามประเภท 1 ภายในสวน ในซอยวัดเนินยาง หมู่ 1 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.จันทบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบสวนดังกล่าวเป็นแปลงปลูกสับปะรด เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่เศษ บริเวณริมสวนติดถนนมีการปลูกไผ่ไว้เป็นแนวกัน พบต้นพะยูง ขนาดใหญ่อายุกว่า 30 ปี ลักษณะลำต้นโตตระหง่าน แยกออกเป็น 2 ต้น โดยต้นหนึ่งวัดขนาดรอบโคนประมาณ 1 คน โอบเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 50 ซม. สภาพถูกคนร้ายใช่เลื่อยจนขาดลำต้นส่วนท่อนปลายยาวถึงยอดประมาณ 15 เมตร ล้มทับแนวกอไผ่ และถูกเลื่อยตัดเป็นท่อน ยาวประมาณ 5 เมตร ถูกขโมยไป

ตรวจสอบในที่เกิดเหตุยังพบมีต้นไผ่รอบต้นพะยูง ถูกตัดทิ้งเพื่อเปิดเป็นวงกว้างไว้ขนท่อนไม้ออกไป และยังพบหน้ากากอนามัยสีดำ สายคาดไนกี้ ขวดน้ำดื่ม 2 ขวด ตกอยู่ในกอไผ่และรองเท้าแตะ 1 คู่ ถูกทิ้งไว้โคนเสาไฟฟ้าทางเข้าสวน ส่วนต้นพะยูงที่เหลืออยู่ยังพบมีรอยฟันเลื่อย วัดตำแหน่งไว้เตรียมตัดเป็นท่อน ความยาวแต่ละท่อนประมาณ 2 เมตร สอบถาม นายภูษิต ผู้แจ้ง เบื้องต้นเล่าว่า สวนดังกล่าวเป็นของ นายพิพัฒน์ (สงวนนามสกุล) ตนเช่าที่ดินปลูกสับปะรด ก่อนเกิดเหตุเข้ามาดูสับปะรดพบว่าต้นพะยูง อายุกว่า 30 ปี ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนตัดโค่นเป็นท่อนลักขโมยหายไป 2 ท่อน ก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 เดือน เคยมีนายหน้ามาติดต่อซื้อไม้พะยูงต้นดังกล่าวกับเจ้าของที่ดิน ในราคา 10,000 บาท แต่เจ้าของไม่ขาย กระทั่งมาถูกขโมยตัดในครั้งนี้ โดยได้แจ้งความ สภ.เมืองจันทบุรี และเข้ามาเก็บหลักฐานไว้แล้ว

จากการตำรวจตรวจสอบพบร่องรอยคาดว่าคนร้ายเป็นแก๊งตัดมืออาชีพ มีไม่ต่ำกว่า 3 คน ใช้เลื่อยชักมือ หรือเลื่อยโบราณที่ชาวบ้านเรียกว่า “เลื่อยสองเกลอ”ในการตัดโค่นไม้เพื่อไม่ให้เกิดเสียงดัง เหมือนเลื่อยยนต์ โดยอาศัยช่วงเวลาที่มีฝนตกลงมือก่อเหตุเพื่ออำพรางสายตา เบื้องต้นคิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 15,000 -20,000 บาท แต่หากนำไปแปรรูป ให้เหลือส่วนแก่นไม้พะยูง และนำไปขายในตลาดมืดจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นหลักแสนบาท เนื่องจากกำลังเป็นที่ต้องการของกลุ่มนายทุน ทั้งนี้ยังได้ฝากถึงเจ้าของสวนอื่นที่มีไม้พะยูงหรือไม้หวงห้ามราคาแพงไว้ในครอบครอง ให้ระมัดระวังหมั่นเอาใจใส่ตรวจตราสอดส่องให้ดี จะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อแก๊งมอดไม้ที่กำลังอาละวาดก่อเหตุในช่วงนี้