เมื่อวันที่ 6 เม.ย. นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมสัมมนาผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศ เมื่อเร็วๆ นี้นั้น ตนได้เน้นย้ำให้เขตพื้นที่การศึกษาทุกเขตเตรียมความพร้อมการเปิดเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565  ซึ่งยืนยันว่าเราจะไม่มีการเลื่อนเปิดภาคเรียนอีกแล้ว เพราะตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา โรงเรียนได้เผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และได้ปรับบ้านเป็นโรงเรียนเปลี่ยนพ่อแม่เป็นครู ช่วยเกื้อหนุนในลักษณะของการเรียนการสอนแบบผสมผสานมาโดยตลอด ดังนั้นการเปิดภาคเรียนใหม่ที่จะถึงนี้ขอให้โรงเรียนเตรียมความพร้อมที่จะเปิดภาคเรียน ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด และร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เด็กมาเรียนได้อย่างปลอดภัย เตรียมความพร้อมทั้งด้านอาคารสถานที่และอุปกรณ์การเรียนการสอนสำหรับการเรียนแบบ On Site และการเรียนแบบทางไกลด้วย

เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า สำหรับการเรียนนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 ในปีการศึกษา 2565 ขอให้เขตพื้นที่ดูแลนักเรียนที่พลาดโอกาสจากโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง หรือเด็กคนไหนยังไม่มีที่เรียนจะต้องเร่งสื่อสารทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง และจัดหาที่เรียนให้เด็กได้มีที่เรียนทุกคนด้วย ขณะเดียวกันเมื่อเปิดภาคเรียนใหม่แล้วเขตพื้นที่จะต้องป้องกันเด็กหลุดระบบการศึกษา หรือค้นหาเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษาในภาคเรียนที่ผ่านมาจากสถานการณ์โควิดให้กลับมาเรียน ซึ่งจะต้องดำเนินการควบคู่กันไป เพราะเราจะต้องสร้างระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้เป็นกลไกสำคัญในการป้องกันปัญหานักเรียนในทุกมิติ เพื่อนำไปเชื่อมโยงกับสถานศึกษาปลอดภัยด้วย  

“ในการประชุมครั้งนี้ผมได้กำหนดตัวชี้วัดการขับเคลื่อนโรงเรียนในปีการศึกษาหน้า ซึ่งอยากให้ทุกโรงเรียนมีตัวชี้วัดเพื่อยกระดับคุณภาพของโรงเรียน ใน 4 ข้อหลัก คือ 1.เรื่องคุณภาพผู้เรียน ทุกโรงเรียนต้องกำหนดให้ได้ว่าในด้านองค์ความรู้ จะมีการยกระดับมากกว่าเดิมอย่างไร 2.คุณภาพครูและผู้บริหาร ทุกโรงเรียนควรจะมีทิศทางในการยกระดับศักยภาพครูของโรงเรียนตัวเองให้ได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการโรงเรียน 3.หลักสูตรการจัดการเรียนการสอน อยากให้ลงรายละเอียดว่าโรงเรียนมีหลักสูตรสถานศึกษาที่เป็นหลักสูตรปี พ.ศ. 2551 ฉบับปรับปรุงปี พ.ศ. 2560 ซึ่งมี 5 สมรรถนะแล้วหรือยัง สามารถทำได้หรือไม่ และทำแล้วนำไปสู่การเรียนการสอนได้มากน้อยอย่างไร และ 4.การมีส่วนร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของแต่ละโรงเรียน” นายอัมพร กล่าว