สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงซันติอาโก ประเทศชิลี เมื่อวันที่ 12 เม.ย. ว่า นายเคลาดิโอ ออร์เรโก ผู้ว่าการภูมิภาคซันติอาโก ซึ่งรวมถึงกรุงซันติอาโก เมืองหลวงของชิลี แถลงเมื่อวันจันทร์ว่า ภูมิภาคแห่งนี้กำลังเผชิญกับวิกฤติภัยแล้งครั้งรุนแรงที่สุด ในประวัติศาสตร์ 491 ปี โดยปริมาณฝนน้อยกว่าค่าเฉลี่ยเป็นปีที่ 13 ติดต่อกัน นั่นหมายความว่า ปริมาณน้ำในพื้นที่อาจไม่เพียงพอสำหรับการอุปโภคและบริโภคของประชาชน “ได้อย่างทั่วถึง”

ภาพถ่ายจากมุมสูง แสดงให้เห็นปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ “รุงเก” ในเขตทางเหนือของกรุงซันติอาโก ที่แห้งขอด


ด้วยเหตุนี้ กรุงซันติอาโก ซึ่งมีประชากรประมาณ 6 ล้านคน จำเป็นต้องเข้าสู่มาตรการปันส่วนน้ำในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แบ่งเป็น 4 ระดับ จากสีเขียวสู่สีแดง เริ่มตั้งแต่การควบคุมแรงดันน้ำประปา ไปจนถึงการปันส่วนน้ำเป็นเวลานานสูงสุด 24 ชั่วโมง


ทั้งนี้ รัฐบาลชิลีคาดการณ์ปริมาณน้ำเพื่อการใช้งานในประเทศ ภายในรอบ 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ลดลง 10% มาอยู่ที่ 37% และอาจลดลงอีกมากกว่าครึ่ง ภายในปี 2603 สำหรับภูมิภาคทางเหนือและตอนกลางของชิลี.

เครดิตภาพ : REUTERS