เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 14 เม.ย. ที่ สน.ลุมพินี ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมด้วยนางสาวบี (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นอดีตสมาชิกพรรคดังที่กำลังตกเป็นข่าว ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับรองหัวหน้าพรรคใหญ่พรรคหนึ่ง หลังตกเป็นหนึ่งในผู้เสียหายจากพฤติกรรมฉาวเมื่อปี 2563 ภายหลังจบงานเลี้ยงที่ จ.เพชรบุรี ปรากฏว่าผู้เสียหายรายนี้ ถูกรองหัวหน้าพรรคคนดังกล่าว จับของสงวนด้านล่าง และลวนลามหน้าอก

ทนายษิทรา เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนได้ไปพบและพูดคุยกับผู้เสียหายที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ทราบมาว่าเหตุเกิดเมื่อปี 2563 เพราะทำงานที่พรรคเดียวกัน โดยได้มีการไปกินเลี้ยงกันที่ จ.เพชรบุรี ปรากฏว่าภายหลังงานเลี้ยงจบ ผู้ก่อเหตุดังกล่าวได้เข้ามาลวนลามน้องผู้เสียหายรายนี้ และถึงแม้ว่าเหตุจะเกิดขึ้นที่ จ.เพชรบุรี แต่ตนได้ประสานกับทาง ผกก.สน.ลุมพินี ไปแล้วว่าจะแจ้งความที่นี่ เพราะมีพยานหลักฐานพร้อม จะให้การในวันนี้ให้เสร็จเรียบร้อย จากนั้นจึงค่อยให้เจ้าหน้าที่ส่งประเด็นไปยัง สภ.ที่เกิดเหตุ ส่วนเคสของน้องผู้เสียหายที่กำลังบินอยู่นั้น ล่าสุดได้ส่งภาพมาให้ตนแล้ว ซึ่งพรุ่งนี้ตนจะมาเปิดว่าในภาพมีบุคคลใดบ้าง

ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายทุกคนไม่แจ้งความดำเนินคดีตั้งแต่ต้น ทนายษิทรา กล่าวว่า เพราะด้วยความที่ส่วนใหญ่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการอยู่สองต่อสอง จึงเป็นเรื่องยากที่จะหาพยานหลักฐาน ดังนั้น ด้วยพฤติกรรมของบุคคลดังกล่าว ที่กระทำกับเหยื่อหลายๆ ราย ตนเลยจะรวมทุกสำนวน ให้ผู้เสียหายแต่ละรายเป็นพยานของกันและกัน เพื่อให้ศาลได้ดูและเชื่อว่าบุคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมเป็นแบบนี้จริงๆ โดยจะไล่ดูพยานหลักฐานต่างๆ ของเหยื่อแต่ละราย ซึ่งโดยอายุความคดีนี้มีโทษจำคุก 10 ปี อายุความ 15 ปี ดังนั้นยังไม่หมดอายุความ

ส่วนพฤติกรรมที่ผู้ก่อเหตุต้องพาผู้เสียหายไปทานอาหารที่ร้านดังกล่าว ทนายษิทรา กล่าวว่า ตนทราบมาว่าอยู่ใกล้กับคอนโดฯ อีกทั้งจากการที่ผู้เสียหายหลายๆ รายส่งข้อความมาแจ้งกับตน พบว่าผู้ก่อเหตุรายนี้ชอบเอางานมาล่อ และโน้มน้าวว่าการเป็นเด็กของเขาจะมีหน้าที่การงานให้ทำ

นอกจากนี้ ทนายษิทรา ยังกล่าวอีกว่า มีผู้เสียหายทักไลน์มาไม่ต่ำกว่า 5 ราย ทั้งโดนข่มขืน ทั้งโดนลวนลาม โดยจะมีนางแบบอีกรายหนึ่งเข้ามาแจ้งความเพิ่ม เพื่อดำเนินคดีกับรองหัวหน้าพรรคคนดังกล่าวแน่นอน เนื่องจากนางแบบรายนี้ถูกข่มขืน

ด้านนางสาวบี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุที่ จ.เพชรบุรี หลังจบงานเลี้ยง ขณะที่ตนกำลังเก็บของ ผู้ก่อเหตุคนดังกล่าวได้เข้ามาทางด้านหลัง มาจับเอว จับก้น จับหน้าอก มีการบีบหน้าอกตนแรงๆ รวมถึงได้มีการล้วงจับของสงวนของตนนอกกางเกง ตนจึงตกใจ และพยายามปัดป้องผลักออก ซึ่งตนไม่ทันตั้งตัวเพราะเขาเข้ามาประชิดตัวและก่อเหตุ จากนั้นเมื่อมีคนเริ่มเดินมาบริเวณรถเยอะขึ้น เขาจึงหยุดการกระทำดังกล่าว แต่ตนไม่ได้ด่าเพราะตกใจมาก จึงเอ่ยถามไปว่า ทำแบบนี้ได้อย่างไร แต่เขาก็ยิ้มแล้วเดินออกไป ไม่ได้พูดอะไร ยอมรับว่าในวันนั้นตนไม่ได้เมา เขาไม่ได้เมา ถึงแม้จะมีการดื่ม แต่ดื่มไปไม่เยอะ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเขาไม่เคยมีการจีบตนแต่อย่างใด ไม่มีพฤติกรรมเชิงชู้สาวมาก่อน ระหว่างตนกับเขาเป็นพี่น้องกัน พูดคุยกันปกติ เพราะตนเคารพเขา จึงไปช่วยงาน แต่หลังจากคืนนั้น เขาก็มาชวนขึ้นไปกรุงเทพฯ ชวนไปคอนโดฯ ของเขา ซึ่งตนก็ปฏิเสธและบอกปัดบ่ายเบี่ยงเพื่อไม่ต้องพบเจอเขา

นางสาวบี เผยอีกว่า ที่ตนออกมาแจ้งความในวันนี้เพราะเห็นน้องนักศึกษาโดน จึงอยากช่วยน้องยืนยันว่าบุคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมแบบนั้นจริงๆ และเพื่อป้องกันคนอื่นๆ ที่จะมาโดนกระทำเช่นนี้ในอนาคต

ส่วนการแถลงชี้แจงของผู้ก่อเหตุเมื่อช่วงบ่ายนั้น นางสาวบี เผยว่า ตนได้ฟังคำแถลงเขาแล้ว ยืนยันว่าเขาโกหก ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา ตนไม่เคยปรึกษากับผู้ใหญ่ในพรรค เพราะเขาเป็นคนใหญ่ แต่ตนแค่เคยเล่าให้เพื่อนสนิทฟัง แต่ก็คิดว่าทำอะไรเขาไม่ได้ และการที่ตนได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคก็เพราะเรื่องฉาวดังกล่าวที่ถูกกระทำ ถึงแม้ว่าต่อหน้าสื่อและสังคม เขาจะดูเป็นคนที่ภายนอกดูอบอุ่น สุภาพ แต่ถ้าอยู่กันสองคนเขาจะมีพฤติกรรมดังกล่าวจริงๆ ทั้งนี้ตนขอฝากไปยังผู้ใหญ่ในพรรค ว่า ขอให้เชื่อคนที่โดนกระทำบ้าง ให้คืนความยุติธรรมให้กับเหยื่อผู้หญิงหลายๆ รายที่ถูกผู้ก่อเหตุรายนี้กระทำด้วย.