เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. แอนนา หทัยรัตน์ ภรรยาสาวของไฮโซดัง หนึ่งในผู้เข้าแจ้งความดำเนินคดีอดีตรองหัวหน้าพรรคการเมือง กรณีถูกล่วงละเมิดทางเพศ ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า   

‘แอนได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ ให้เข้าไปใช้สิทธิในฐานะผู้เสียหาย ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ในวันพรุ่งนี้เวลา 7 โมงเช้า ที่จะขอคัดค้านการให้ประกันตัว ของ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ หวังว่าเหตุและผลจะดีพอ แอนขอความกรุณา ขอร้องให้ศาลจะเห็นใจแอน และผู้เสียหายรายอื่นๆด้วยค่ะ’

นางหทัยรัตน์ ยังระบุถึงรายละเอียดการคัดค้านการให้ประกัน ดังนี้ คดีนี้พนักงานสอบสวนมีคำร้องขอฝากขังเป็นครั้งแรกจำนวน 12 ในวันนี้ ผู้ร้องในฐานะผู้เสียหายในคดีนี้ มีความประสงค์ขอคัดค้านการอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา โดยมีเหตุผลที่สำคัญที่จะใคร่ขอกราบเรียนต่อศาลดังนี้

ข้อที่ 1 คดีนี้เป็นคดีที่มีอัตราโทษสูงและเป็นคดีร้ายแรงอันมีลักษณะเป็นภัยต่อสังคม เป็นคดีที่สาธารณชนและสื่อมวลชนโดยทั่วไปได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ประกอบกับผู้ต้องหาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมีตำแหน่งหน้าที่ทางการเมือง โดยมีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคที่เข้าร่วมกับรัฐบาลในเวลานี้ และมีบิดาเป็นอดีตผู้อำนวยการองค์การค้าระหว่างประเทศ WTO และอดีตเลขาธิการองค์กร ซึ่งถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพล มีอำนาจบารมีเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกับบุคคลในฝากฝั่งรัฐบาล และข้าราชการในหลายระดับชั้น

ข้อ 1.2 ผู้ต้องหาในขณะนี้ได้มีผู้เสียหายหลายรายได้แสดงตนเข้ามาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนต่อสถานีตำรวจนครบาลลุมพินีแล้ว จำนวนถึง 3 รายและต่างจังหวัดอีก 1 ราย และยังมีที่เข้ามาติดต่อกับผู้ร้องเพื่อขอรับคำปรึกษาอีกจำนวนหลายราย และพร้อมจะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ในเร็ววันนี้ ซึ่งผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อผู้หญิงที่ตกเป็นผู้เสียหาย โดยมีพฤติการณ์ทางคดีคล้ายคลึงกัน กล่าวคือมักจะกล่าวอ้างถึงฐานะของตนเองทางการเมือง ด้านธุรกิจและความเชี่ยวชาญด้านการลงทุน ตามที่ร่ำเรียนมาว่าสามารถที่จะให้คำปรึกษาทางธุรกิจได้ดี และมักจะอ้างฐานะในตำแหน่งหน้าที่ของบิดาผู้ต้องหาในอดีต จนผู้เสียหายหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อ จึงมีลักษณะที่เป็นภัยต่อสังคมอย่างยิ่ง

อีกทั้งผู้ต้องหายังได้มีพฤติกรรมที่ล่วงละเมิดทางเพศ มาอย่างยาวนานและต่อเนื่องกันมาหลายสิบปี มีผู้ตกเป็นผู้เสียหายจำนวนมาก แต่ที่ผ่านมาผู้ต้องหายังไม่เคยถูกดำเนินคดี โดยสามารถใช้อิทธิพลวิ่งเต้น ช่วยเหลือ ทั้งทางการเงิน และฐานะทางการเมืองจนไม่มีผู้เสียหายรายใดเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ จนทำให้ผู้เสียหายเหิมเกริม ไม่สำนึกต่อการกระทำของตน ยังคงมีพฤติกรรมกระทำความผิดซ้ำซากต่อเนื่องติดต่อกันมาจนถึงปัจจุบันนี้ หากศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยไปก็จะไม่สามารถรับประกันได้ว่าจำเลยจะไม่ไปกระทำซ้ำความผิดเดิมอีก

ข้อ 1.3 ดังที่กราบเรียนต่อศาลมาตาม ข้อ 1.1 และ ข้อ 1.2 แล้วว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นผู้มีอิทธิพล และเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง เป็นที่สนใจต่อสาธารณะชน ผู้ร้องเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และจะใช้อิทธิพลทางการเงิน ฐานะทางการเมือง อิทธิพลส่วนตัว เข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนได้ อีกทั้งผู้เสียหายบางรายเป็นเพียงประชาชนคนธรรมดาย่อมหวาดกลัวและเกรงกลัวต่ออิทธิพลของผู้ต้องหา อันจะทำให้กระบวนการอำนวยความยุติธรรมจะไม่ได้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม และปราศจากการแทรกแซงจากอิทธิพลภายนอกได้

ข้อ 2 จากเหตุผลที่ผู้ร้องได้ประทานกราบเรียนต่อศาลมาแล้วนี้ จึงสมควรที่ศาลจะได้โปรดพิจารณาไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว หากผู้ต้องหายื่นเรื่องมาขออนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตามคำร้องฝากขังของพนักงานสอบสวน ทั้งนี้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม และคุ้มครองผู้เสียหาย พยานในคดีนี้ เนื่องจากเป็นคดีที่มีความเปราะบางกระทบกระเทือนต่อสภาพจิตใจของผู้เสียหายเป็นอย่างสูง เกรงว่าผู้เสียหายจะไม่ได้รับความปลอดภัย และเกรงกลัวต่อภยันตรายจนทำให้รูปคดีสูญเสียความเป็นธรรม