เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ จะยื่นสอบจริยธรรมเรื่องบุกรุกแม่น้ำแควน้อย ที่ จ.กาญจนบุรี ว่า น.ส.ปารีณา เขาเป็นคนติ๊งต๊อง ไม่ค่อยเข้าใจประเด็นที่เขาร้องตน ไม่ว่าจะเป็นท่าเทียบเรือที่สามเสน หรือที่ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เขาติ๊งต๊องหมด ซึ่งการถมที่ดินที่ทองผาภูมิ เกิดตั้งแต่ปี 50 ตนยังไม่ได้เป็น ส.ส. แต่จริยธรรมเขาใช้กับ ส.ส. เพราะตนมาเป็น ส.ส.ตอนปี 62 ฉะนั้นการกระทำของตนไม่เกี่ยวกับจริยธรรม ที่สำคัญตนโอนให้ลูกไปหมดแล้ว “ผมถึงบอกว่าติ๊งต๊อง ไม่เข้าใจเรื่อง ถึงเจ็บตัวเรื่อย เรื่องนี้ผมไม่กังวล”

เมื่อถามว่า ดูเหมือน น.ส.ปารีณา จะแค้นที่ถูกทำให้หลุดจากตำแหน่ง ส.ส. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร เพราะห้ามเขาไม่ได้ เขาไม่พอใจ เขาโกรธ สามารถทำได้ แต่ไม่ใช่หาเรื่องโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริง ตัวเองไม่ได้เรียนอะไรมา กฎหมายก็ไม่ได้เรียน ส่วนจะฟ้องกลับหรือไม่ คงต้องดูทนายก่อน เพราะเป็นทนายประจำ หากมีเรื่องอะไรเกี่ยวกับตน เขาจะจัดการเอง ตนไม่ต้องสั่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันเดียวกัน กลุ่มผู้ค้าสลากเสรีแห่งประเทศไทย นำโดยนายประเทืองวุฒิ ลิ้มรสสุคนธ์ รองประธานผู้ค้าสลากเสรีแห่งประเทศไทย เดินทางมายื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ช่วยแก้ปัญหาสลากเกินราคา ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของนายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เข้าดำเนินคดีกับมังกรฟ้าเพียงแพลตฟอร์มเดียว ทั้งที่ยังมีกองสลากพลัส และเสือแดง รวมถึงมีคลิปเสียงสนทนาของนายเสกสกลปรากฏต่อสาธารณะเป็นวงกว้าง ซึ่งเห็นว่าการปฏิบัติหน้าที่ของนายเสกสกลสนับสนุนนายทุน โดยไม่คำนึงถึงปากท้องประชาชนชัดเจน และหาวิธีให้กองสลากยุติการสแกนคิวอาร์โค้ดหรือขายผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ และเร่งแก้ไขระเบียบของกองสลากที่เป็นสองมาตรฐาน ไม่โปร่งใสเป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมถึงขอให้ยื่นญัตติด่วนตั้งคณะกรรมการแก้ไขการค้าสลากฯ เกินราคาด้วย

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ กมธ.เพื่อพิจารณาและจะเชิญผู้เดือดร้อนมาร่วมรับฟังด้วย โดยที่ประชุมจะเชิญนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และคนอื่นๆ มาชี้แจงในวันที่ 27 เม.ย.นี้ ในกรณีเปิดเผยคลิปเสียงเรียกเงิน 15 ล้านบาท ส่วนนายเสกสกล และนางจุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมือง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคู่สนทนาในคลิปเกี่ยวกับสลากฯ มาชี้แจงในเดือนพ.ค.เกี่ยวกับการใช้เงิน 15 ล้านบาทในการเลือกตั้ง เรื่องการเรียกรับทรัพย์สิน ซึ่งในประเด็นเงิน 15 ล้านบาท ถือเป็นเรื่องง่าย และจะรีบส่งให้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการต่อไป ส่วนเรื่องรับทรัพย์สินต้องตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ และจะเชิญใครมาเพิ่มเติมบ้าง

เมื่อถามว่า การลาออกของนายเสกสกลเหมือนต้องการจะมาชนในชั้น กมธ.เต็มที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า “จะมาชนอะไรกับผม ผมนักมวยนะ คุณนักมวย ผมนักยูโดนะ แรมโบ้เป็นใคร ถึงผมจะอายุมาก แล้วบอกจะมาชน เดี๋ยวก็เจอหรอก”

เมื่อถามว่า ดูเหมือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะเสียดายนายเสกสกล และชมว่าการลาออกเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ถ้าปกติในระบบการบริหารเมื่อมีเหตุเกิดขึ้นแล้ว นายกฯ ต้องตั้งกรรมการตรวจสอบว่าเรื่องเป็นอย่างไร และรีบดำเนินการโดยด่วน ถ้าเป็นราชการมีเหตุเกิดขึ้นก็ต้องให้พักราชการไว้ก่อน แล้วเริ่มทำการสอบสวน หากไม่ผิดก็กลับมาใหม่ แต่เท่าที่ติดตามดูนายกฯ ไม่ได้ทำอะไรเลย จนกระทั่งฝ่ายเสนาธิการของเขาเสนอมาว่า เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายจำเป็นต้องให้นายเสกสกลออกไปก่อน

“นายเสกสกลลาออก ไม่ใช่นายกฯ ให้ลาออก ตรงนี้จึงถือว่าคุณประยุทธ์ไม่ได้ทำหน้าที่ของตนเอง คือไม่ได้ให้แรมโบ้ลาออก และไม่ได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีการกระทำความผิดจริงหรือไม่ ตรงนี้อาจจะผิดที่คุณประยุทธ์ด้วย” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว