พระธรรมปัญญาบดี อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ลงนามออกประกาศวัดมหาธาตุฯ เรื่องการมรณภาพของพระราชวิสุทธิโมลี (มนู สุมโน) ระบุว่า ตามที่พระราชวิสุทธิโมลี อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 9 และอดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุฯ ได้ถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2564 เวลาประมาณ 05.00น. ตามที่ทราบแล้วนั้น ทางวัดมหาธาตุฯ ขอชี้แจงถึงการมรณภาพ เพื่อให้ศิษยานุศิษย์และพุทธบริษัททั่วไปได้ทราบถึงข้อเท็จจริง เพื่อจะได้ไม่เกิดความสับสนตามที่เป็นข่าวปรากฏตามสื่อต่างๆ ดังนี้ พระราชวิสุทธิโมลี ได้อาพาธด้วยโรคชราและเข้ารับการรักษาตัว ณ โรงพยาบาลสงฆ์ มาเป็นเวลาหลายปี ไม่ได้กลับมาพํานักอยู่จําที่วัดมหาธาตุฯ เป็นเวลานาน จะกลับมาก็เป็นระยะเวลาสั้นๆ เพียงวันเดียว ตามที่แพทย์อนุญาต และก่อนที่ท่านจะมรณภาพ ท่านก็ไม่เคยได้กลับมาที่วัดมหาธาตุฯ อีกเลย คณะสงฆ์วัดมหาธาตุฯ ได้ไปเยี่ยมถามถึงอาการตลอดมา ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ทางคณะแพทย์เห็นว่าอาจเป็นการรบกวนคนป่วยจึงไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยม จนได้ทราบข่าวจากทางโรงพยาบาลสงฆ์ว่า ท่านได้มรณภาพเมื่อวันที่ 25 ก.ค.นั้น ทางโรงพยาบาลได้สันนิษฐานว่า นอกจากท่านจะอาพาธด้วยโรคชราแล้ว ท่านยังได้รับเชื้อโควิด-19 อีกด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุสําคัญที่ทําให้ท่านมรณภาพ ทางโรงพยาบาลสงฆ์จึงมีความจําเป็นที่จะต้องประกอบพิธีฌาปนกิจศพภายในวันนั้น ตามมาตรการป้องกันการแพร่ขยายของเชื้อโรค จึงทําให้ทางวัดมหาธาตุฯ ไม่ได้มีโอกาสบําเพ็ญกุศลศพท่าน ตามธรรมเนียมประเพณีที่เคยปฏิบัติสืบต่อกันมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางวัดมหาธาตุฯ รู้สึกสลดหดหู่ใจเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งญาติพี่น้อง ศิษยานุศิษย์ของท่าน ก็ไม่ได้มีโอกาสมาร่วมบําเพ็ญกุศลในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บบรรเทาทุเลาลง สถานการณ์ทางสังคมกลับคืนมาปกติ ทางวัดก็จะได้บําเพ็ญกุศลอุทิศให้กับท่านในโอกาสต่อไป ดังนั้น จึงขอประกาศแจ้งให้ทุกท่านได้ทราบว่า พระราชวิสุทธิโมลี ได้มรณภาพลงที่โรงพยาบาลสงฆ์ ซึ่งท่านพํานักรักษาตัวอยู่ที่นั่นเป็นเวลานานแล้ว มิใช่ท่านติดเชื้อโควิด-19 จากที่วัด แล้วจึงค่อยนําไปรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงฆ์ จนเป็นเหตุให้ท่านมรณภาพตามที่ปรากฏเป็นข่าว