ตามที่ปรากฏข้อมูลการร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมไม่เหมาะสมของ นายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ นายอำเภอรือเสาะ จ.นราธิวาส ในหลายประเด็นจากกลุ่มกำนันในอำเภอรือเสาะ เช่น พฤติกรรมข่มขู่ และขับไล่หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานหนึ่ง พฤติกรรมเชิงชู้สาว การข่มขู่ผู้นำศาสนาที่ไม่ฉีดวัคซีนโดยวิธีการรุนแรง การล็อกประตูมัสยิดกลางในขณะที่ผู้นำศาสนาทำการละหมาด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เด้งฟ้าผ่า! ‘นายอำเภอรือเสาะ’ ช่วยราชการ หลังถูกร้องเรียน7พฤติกรรมไม่เหมาะสม

ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 เม.ย. นายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ นายอำเภอรือเสาะ เปิดเผยถึงเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ว่า ได้รับทราบข้อมูลแล้ว ขอยืนยันว่า ไม่เคยกระทำพฤติกรรมตามที่ถูกกล่าวอ้าง และได้ทำรายงานข้อเท็จจริงเพื่อชี้แจงถึงกรณีที่เกิดขึ้นต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับ โดยมีหลักฐานในเชิงประจักษ์ประกอบในแต่ละประเด็นอย่างครบถ้วน ทั้งนี้พร้อมให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่ตนที่ถูกร้องเรียน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งตนยินดีเข้ารับการตรวจสอบ และหากทำผิดจริงตามที่ถูกกล่าวอ้าง ก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายและรับการลงโทษทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข

ยืนยันตลอดระยะเวลาของการปฏิบัติงานในตำแหน่งนายอำเภอรือเสาะ และตลอดการปฏิบัติงานในฐานะข้าราชการ ได้ปฏิบัติงานโดยยึดการปฏิบัติงานตามนโยบายและข้อสั่งการของผู้บังคับบัญชา โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชน และส่วนรวมเป็นที่ตั้ง มุ่งมั่นในการพัฒนาและแก้ปัญหาในพื้นที่ด้วยความจริงจังและจริงใจมาโดยตลอด ซึ่งเมื่อมีเหตุร้องเรียน และผู้บังคับบัญชามีคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่กรมการปกครอง ก่อนการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเชิงประจักษ์ ก็พร้อมปฏิบัติตาม และจะเฝ้ารอวันที่ความจริงปรากฏเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง

สำหรับนายวิชาญ มีภูมิลำเนาจังหวัดนราธิวาส อายุ 53 ปี อายุราชการ 29 ปี ระยะเวลาปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวม 13 ปี โดยปฏิบัติงานดังนี้ นักการข่าวรับผิดชอบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หัวหน้ากลุ่มปฏิบัติการข่าว 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กรมการปกครองและเป็นกำลังพลของศูนย์ข่าวร่วม กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า นายอำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส นายอำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส นายอำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช และดำรงตำแหน่งนายอำเภอรือเสาะ ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2560 จนถึงปัจจุบัน

ผลงานเด่นจากการปฏิบัติราชการของนายวิชาญ ที่ผ่านมา

-ได้รับการคัดเลือกเป็นข้าราชการพลเรือนดีเด่นประจำปี 2557
-ได้รับรางวัลอำเภอที่มีผลงานบริการประชาชนดีเด่นจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ประจำปี 2557
-ได้รับรางวัลศูนย์ปฏิบัติการอำเภอดีเด่นโครงการพาคนกลับบ้าน ในปีงบประมาณ 2559
-สามารถบริหารจัดการโครงการมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล ตำบลละ 5 ล้านบาท ของอำเภอระแงะ โดยดำเนินการแล้วเสร็จและเบิกจ่ายงบประมาณภายในกำหนดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ
-สามารถดำเนินการจัดให้มีผู้มีสิทธิออกเสียง มาลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญในพื้นที่อำเภอระแงะได้ 80.43% โดยเป็นอำเภอเดียวที่สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายของรัฐบาลและเป็นอันดับ 1 ของประเทศ
-สามารถระดมมวลชน ประชาชน ผู้นำศาสนา อำเภอระแงะ กว่า 7,000 คน ดำเนินกิจกรรมต่อต้านความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลเจาะไอร้อง โดยยอดมวลชนมากเป็นอันดับ 1 ของ 37 อำเภอในจังหวัดชายแดนภาคใต้
-สามารถดำเนินโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้าน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวประชารัฐหมู่บ้านละ 250,000 บาท จนเสร็จสิ้นเป็นอันดับ 1 ของจังหวัดนครศรีธรรมราช จากอำเภอทั้งสิ้น 23 อำเภอ และเป็นอำเภอเดียวที่เสร็จสิ้นภายในปี 2559
-ดำเนินโครงการฉวางโมเดล โดยปราบปรามกลุ่มร้านค้ายาแก้ไอที่ขายยาแก้ไอไปเป็นส่วนผสมกับน้ำกระท่อมในพื้นที่ ซึ่งเป็นแหล่งค้าส่งขนาดใหญ่ มีเงินหมุนเวียนทั้งปี 900 กว่าล้านบาทอย่างจริงจัง ทั้งใช้กำลังปราบปรามและใช้มาตรการทางสังคมกดดันกลุ่มผู้ค้า จนการขายยาแก้ไอในพื้นที่อำเภอฉวาง ลดลงจนแทบไม่มีการขายให้กลุ่มวัยรุ่นไปใช้ผสมยาเสพติด 4×100

ผลงานเด่น ขณะดำรงตำแหน่งนายอำเภอรือเสาะ

-สามารถเปิดโรงเรียนแบบ On-Site หลังการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบตามกำหนดได้ 100% ครบทุกทุกโรงเรียนภายในอำเภอรือเสาะ เป็นอันดับ 1 ของประเทศ
-สามารถควบคุมสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในปี 2564 โดยมีผู้ติดเชื้อน้อยที่สุดเป็นอันดับ 1 ของจังหวัดนราธิวาส
-สามารถดำเนินการส่งเสริมการออมตามโครงการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ปี 2565 ได้ที่ 1 จำนวน 100% เป็นอันดับ 1 ของจังหวัดนราธิวาส
-เปิดสถานที่กักกันเฉพาะกิจ 9 อาคาร บริหารจัดการกลุ่มเสี่ยงจำนวน 3,413 คน เป็นสถานที่กักกันเฉพาะกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัดนราธิวาส โดยที่ได้รับรางวัลสถานที่กักกันเฉพาะกิจดีเด่นของจังหวัดนราธิวาส การบริหารจัดการสถานการณ์ช่วงวิกฤติโควิด-19